มีเพื่อนปล่อยเงินกู้รอ้ยละ20ต่อเดือนก็เลยเป็นที่ถกเถียงกันว่ามีความผิดกับไม่มีความผิดบางคนบอกว่าไม่มีความผิดเพราะมีสัญญากู้ยืมถ้า้มีปัญหาลูกหนี้เบี้ยวก็ฟ้องได้เฉพาะเงินต้นส่วนดอกเบี้ยนั้นฟ้องไม่ได้เพราะเป็นโมฆะส่วนอีกคนบอกว่ามีความผิดเพราะปล่อยเงินกู้โดยไม่จดทะเบียนแล้วก็มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนด้วย
จะถามว่าจำนำฉโหนเที่ดินไว้แต่เจ้าหนี้คิดร้อยละยี่ แล้วตอนนี้ที่ดินสองแปลงประมาณยี่สิบไร่ได้โดนเจ้าหนี้ยึดเป็นของเค้เปล่ง อย่างนี้ต้องทำอย่างไรค่ะ และทุกๆวันยังมาเก็บทั้งรายวันไม่สิ้นสุดสักทีช่วยหน่อยค่ะ
กรณีตามปัญหา หนี้นอกระบบหมายถึงการกู้หนี้ยืมสินที่ไม่อยู่ในระบบสถาบันการเงิน เช่น การกู้ยืมกันระหว่างเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้อง ซึ่งการกู้ยืมเงินดังกล่าวจะไม่มีกฎกติกามารยาทที่เป็นมาตรฐาน เช่น การทำสัญญากู้ยืมเงินอาจจะใช้กระดาษเปล่าเขียน
รุ้ทั้งรุ้ว่าดอกมันแพงจะไปกู้ทำไม เอาเงินเขามาแล้วยังจะมาแจ้งจับเขาอีก สันดาน จริงๆ
โทษน่าจะนักกว่านั้นอีกสักหมื่นเท้าเป็นการเอาเปลียบคนกู้มากเกินไปเอาผิดทั้งผู้รับสินบนผู้รับสินบนผิดจนให้ออกจากงานไปเลย
การกระทำเช่นนี้น่าจะอายั้ดเข้ากระทรวงให้หมดทั้งประเทศเลยไม่ให้มีคนที่เก็บเงินรายวันในประเทศไปเลย
ที่เขาเก็บรายวันร้อยละสามสิบบาทต่อวัน แค่ซื้อสัญญาที่ใหนส้กแห่งมาทำมันผิดหรือไม่ทำไมเขายังทำได้ทุกวันนี้เลย
ต้องแจ้งไคร มาจับกุมและต้องใช้หลักฐานอะไร
การเรียกดอกเบี้ยสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนดคือ เกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปี ตาม ปพพ. ม.654 มีโทษ ตามกฎหมาย คือ พระราชบัญญัติเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พุทธศักราช ๒๔๗๕ มาตรา 3...แต่ผู้กู้ไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องร้องผู้ให้กู้ได้ และดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด ไม่สามารถเรียกคืนได้ เพราะเป็นการใช้หนี้ตามอำเภอใจตาม ปพพ.407 และสัญญากู้ไม่เป็นโมฆะ ผู้ให้กู้สามรถฟ้องให้ผู้กู้ชำระหนี้ได้ทั้งหมด และสามารถเรียกดอกเบี้ยที่ผิดนัดได้ ร้อยละ 7.5 ต่อปี สำหรับความผิดของเจ้าหนี้ต้องร้องให้อัยการดำเนินคดีครับ....
มาตรา ๓ บุคคลใด
(ก) ให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ หรือ
(ข) เพื่อปิดบังการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราท่านบัญญัติไว้ในกฎหมาย บังอาจกำหนดข้อความอันไม่จริงในเรื่องจำนวนเงินกู้หรืออื่น ๆ ไว้ในหนังสือสัญญา หรือตราสารที่เปลี่ยนมือได้ หรือ
(ค) นอกจากดอกเบี้ย ยังบังอาจกำหนดจะเอา หรือรับเอาซึ่งกำไรอื่นเป็นเงินหรือสิ่งของ หรือโดยวิธีเพิกถอนหนี้ หรืออื่น ๆ จนเห็นได้ชัดว่าประโยชน์ที่ได้รับนั้นมากเกินส่วนอันสมควรตามเงื่อนไขแห่งการกู้ยืม
ท่านว่าบุคคลนั้นมีความผิดฐานเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขอบพระคุณพี่มากคะ
ขอบคุณมากๆคะ
หากผู้ให้กู้ไม่ใช่สถาบันการเงิน การให้กู้ยืมเงินย่อมอยู่ภายใต้บังคับ พรบ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา 2478 ถ้าและเจ้าหนี้ผู้ให้กู้มให้กู้ยืมโดยเรียกดอกเบี้นเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว มีความผิดมีโทษจำคุกทางอาญาด้วย
ปรึกษากฎหมาย โทร.02-948-5700ในเวลาราชการ( วันจันทร์-วันศุกร์) และ 081-625-2161, 081-916-7810 (โทรได้ทุกวัน)
*********************************************
รับฟังการ Live สด ให้ความรู้ทางด้านกฎหมายและการเมือง (ได้ทุกวัน)
ทาง facebook : ทนายคลายทุกข์ และ YouTube : ทนายคลายทุกข์ tiktok : ทนายคลายทุกข์ ได้ทุกวันครับ
*************************