WebBoard :กฎหมาย|ที่ดินบ้าน นิติกรรมอำพราง ครอบครองปรปักษ์

ที่ดินบ้าน นิติกรรมอำพราง ครอบครองปรปักษ์

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

ที่ดินบ้าน นิติกรรมอำพราง ครอบครองปรปักษ์

  • 233
  • 2
  • post on 16 เม.ย. 2565, 15:04

แม่ซื้อบ้านในหมู่บ้านมีชื่อเป็นเจ้าของโฉนดที่ดิน ผมเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ตั้งแต่เริ่มสร้างเสร็จประมาณปี 2520 มีชื่อเป็นเจ้าบ้าน อยู่โดยแม่ให้อยู่ ปกติอยุ่กันกับแม่ 2 คน น้องชายไปเรียนต่างประเทศ (ผมเป็นคนโตมีน้องชาย 1 คน) หลังน้องชายเรียนจบ กลับมาทำงานที่ประเทศไทย แต่ไปเช่าห้องพักอยู่ที่อื่น

 เมื่อ 2563 ไฟไหม้บ้านบางส่วน ผมจึงจะซ่อมบ้านให้อยู่ได้โดยจะให้แม่โอนโฉนดให้เพื่อจำนองกับธนาคารเอาเงินมาสร้างบ้านใหม่จึงทราบว่าแม่โอนโฉนดให้น้องชายไปแล้วเมื่อ 2542 เพราะตอนนั้นมีคดีความกลัวบ้านจะถูกยึดจึงโอนให้น้องชายหลบหนี้ให้เหตุผลหลังโฉนดว่า "ให้" ตอนนี้ขอคืน น้องไม่คืน จะทำไงดีจึงจะได้คืน ไม่ว่าจะเป็นชื่อแม่หรือชื่อผมก็ได้ จะขอศาลสั่งครอบครองปรปักษ์ได้หรือไม่ หรือนิติกรรมโอนในปี 2542 นั้นเป็นนิติกรรมอำพรางเป็นโมฆะ หรือมีวิธีใดบ้างครับ

โดยคุณ por.coral (49.228.xxx.xxx) 16 เม.ย. 2565, 15:04

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 2

ถ้าแม่ต้องการที่ดินคืน  ก็ต้องตั้งรูปคดีฟ้องร้องว่า  แม่ไม่มีเจตนาโอนให้น้องชายจริง  การโอนฯย่อมเป็นโมฆะ   แต่ก็ต้องมีคดีฟ้องร้องกันยืดยาวแน่นอน   การเจรจาตกลงกัน ในฐานะญาติน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ครับ  ส่วนการครอบครองปรปักษ์ ของคุณ ถ้ามีข้อเท็จจริงว่า  คุณเข้ามาอาศัยในบ้าน โดยสงบ เปิดเผย  เจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลา 10 ปี ก็อาจจะฟ้องให้ได้กรรมสิทธิ์ โดยการครอบครองปรปักษ์ได้   แต่..ก็ต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง มากมายพอสมควร  ถ้าฮึดสู้กันทั้งสองฝ่ายไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กัน   ย่อมเจ็บ และสูญเสียทั้งสองฝ่าย..ขอแนะนำ ใช้วิธีไปศาลแจ้ง ขอให้มีการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง  น่าจะดีที่สุด  การไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง  ไม่มีค่าใช้จ่าย  ไม่ต้องมีทนายความก็ได้  มีกฎหมายรองรับให้สามารถทำได้ ด้วยความปรารถนาดี ครับ

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 19 พ.ค. 2565, 12:58

ความคิดเห็นที่ 1

ผู้ถือกรรมสิทธิ์



  แม่เป็นเจ้าของโฉนดที่ดิน  ย่อมเป็นเจ้าของบ้านด้วย  ในหลักการเรื่องส่วนควบ  ส่วนคุณมีชื่อเป็นเจ้าบ้าน ย่อมไม่มีกรรมสิทธิ์ใบ้านและที่ดินเท่ากับแม่   เมื่อแม่โอน ให้ น้องชาย   บ้านและที่ดิน  ย่อมเป็นกรรมสิทธิ์ของน้องชายผู้เดียว  การจะเรียกร้องคืนคงทำได้ลำบาก...คุณบอกว่า  เข้ามาอาศัยในบ้านเพราะแม่อนุญาต  การจะอ้างการครอบครองปรปักษ์ น่าจะทำไม่ได้....การจะอ้างการครอบปรปักษ์  เพื่อแย่งชิงกรรมสิทธิ์จากน้องชาย   ก็ค่อนข้างจะเป็นทั้งปัญหาข้อเท็จจริง และปัญหาข้อกฎหมาย  คงต้องพิสูจน์กันยืดยาวพอสมควร  ใช้วิธีเจรจากันน่าจะดีกว่า  ....หรือถ้าแม่ยืนยันว่า โอนบ้านและที่ดิน ให้น้องชาย เพื่อหลบหนี้  ไม่มีเจตนาโอนให้จริง   ก็ถือว่าให้น้องชายถือกรรมสิทธิ์แทนแม่   แม่ก็มีช่องทางเรียกบ้านและที่ดินคืนได้   แต่ถ้าแม่ไม่ร่วมมือในประเด็นนี้ คุณย่อมเสียเปรียบ  ขอแนะนำให้ใช้การเจารจากันดีที่สุด ด้วยความปรารถนาดี ครับ

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 18 เม.ย. 2565, 12:25

ตอบความคิดเห็นที่ 1

ขอบพระคุณครับที่กรุณาให้ความคิดเห็น กรณีคือได้คุยกับน้องชายแล้วพร้อมกับแม่ ทั้งผมและแม่ต้องการที่คืนหรือไม่ก็ให้น้องชายไปทำบ้านให้อยู่ได้ เขาไม่ทำ (เขาอยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้ ทำงานมีรายได้ต้องจ่ายภาษีสูงสุด หลายแสนต่อเดือน) ผมก็บอกว่าโอนที่คืนมาผมจะทำเอง เขาไม่ยอมครับ การขอพึ่งบารมีศาลเป็นทางสุดท้าย

- การครอบครองปรปักษ์ เป็นกรณีหลังจากโอนที่ดินแล้ว แม่ไม่มีสิทธิอนุญาตให้ผมอยู่แล้ว แต่ผมยังคงครอบครองที่ดินโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมาเนื่องจากเข้าใจว่าการเป็นเจ้าบ้านหมายถึงเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าของที่ดิน กระทั่งมาทราบภายหลังว่าเป็นคนละเรื่องระหว่างการเป็นเจ้าบ้าน กับการเป็นเจ้าของที่ดิน

- การขอให้สัญญายกที่ดินให้เป็นโมฆะเนื่องจากเป็นนิติกรรมอำพรางนั้น แม่ก็ต้องการคืนด้วย จะมีทางไหมครับ ต้องดำเนินการอย่างไรกับ 2 กรณีนี้ครับ ฟ้องครอบครองปรปักษ์ก่อน ถ้าไม่ได้ผลก็ฟ้องขอให้สัญญายกที่ดินให้น้องชายเป็นโมฆะต่อเป็นประการสุดท้าย จะได้ไหมครับ

ขอประทานโทษด้วย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เคยเขียนกระทู้แบบนี้ อาจผิดพลาดในวิธีการใช้งาน ไม่ได้ตั้งใจจะเขียนห้วนๆนะครับ ขอบพระคุณครับ

โดยคุณ por.coral 19 เม.ย. 2565, 13:06

ตอบความคิดเห็นที่ 1

แม่ต้องการที่คืนด้วย

โดยคุณ por.coral 19 เม.ย. 2565, 12:40

แสดงความเห็น