คนรวบรวมเงินโกงเงินไป

295
1
post on 13 พ.ย. 2563, 20:52

มีการกำหนดให้หัวหน้าชั้นรวบรวมเงินเพื่อไว้เป็นค่ากิจกรรมต่างๆ ในการศึกษา โดยสมาชิกต้องโอนเงินให้หัวหน้าชั้นทุกๆเดือน โดยหัวหน้าชั้นทำการเปิดบัญชีใหม่โดยชื่อของหัวหน้าชั้นเอง และใช้เป็นบัญชีรวบรวมเงิน ต่อมาหัวหน้าชั้นได้ลาออกจากมหาวิทยาลัย แล้วนำเงินรวบรวมไปด้วย

คำถาม : เมื่อบัญชีที่รวบรวมเงินของสมาชิกนั้นใช้ชื่อตัวหัวหน้าชั้นเอง แล้วทางสมาขิกต่างๆ จะสามารถฟ้องร้อง ได้หรือไม่ (โดยมีหลักฐานการโอนเงินทุกๆเดือน)และ ฟ้องในข้อหาอะไรได้ครับ

ขอบคุณครับ

โดยคุณ สราวุธ (162.158.xxx.xxx) 13 พ.ย. 2563, 20:52

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

ยักยอก

ตามข้อเท็จจริง หัวหน้าชั้น จะมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตาม ปอ. ม.352 มีโทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ..ในเมื่อเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน เมื่อลงโทษทุกกรรม เรียงกระทงไป อาจจะมีโทษจำคุกถึง 10 ปี( ปอ. ม.91)...แต่เป็นความผิดที่สามารถยอมความกันได้ ต้องร้องทุกข์(แจ้งความ) ภายในสามเดือนที่ทราบเรื่องการกระทำความผิด และทราบตัวผู้กระทำความผิด ...ถ้าพ้นจากห้วงเวลานี้ คดีจะขาดอายุความ( ปอ. ม.96)ถ้าอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาล อัยการก็สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยได้ ตาม ป.วิอาญา ม. 42 โดยผู้เสียหายไม่ต้องไปฟ้องทางแพ่งในภายหลัง

ปัญหาในทางปฏิบัติ เมื่อถูกแจ้งความดำเนินคดี ผู้กระทำผิดมักใช้ช่องว่างของกฎหมาย ที่สามารถยอมความกันได้ โดยไปพบ พงส. และยอมรับผิด และยินยอมทำหลักฐานไว้ว่าจะยินยอมชดใช้เงินที่ยักยอกไปทั้งหมด ถ้าผู้เสียหายหลงกล ยินยอมทำบันทึกไว้ตามที่ตกลงกัน สิทธิฟ้องคดีอาญาย่อมหมดไป คงเหลือเพียงความรับผิดทางแพ่งเท่านั้น ถ้าผู้เสียหายไม่ยอมจ่ายเงินคืนตามสัญญา ก็ต้องไปฟ้องทางแพ่งเอาเอง ซึ่งคงยุ่งยากไม่น้อย ผู้กระทำความผิดก็ไม่ต้องเกรงกลัวการรับโทษทางอาญา การเจรจากันคงหาข้อยุติได้ลำบาก ดังนั้น ก่อนตกลงทำบันทึกไว้ ต้องให้ผู้กระทำความผิด วางเงินไว้ก่อน หรือบันทึกเงื่อนไขไว้ชัดเจนว่า ยังไม่ยอมความจนกว่า ผู้กระทำความผิดจะจ่ายเงินค่าเสียหายทั้่งหมดก่อน...ด้วยความปรารถนาดี ครับ

WebBoard :กฎหมาย|คนรวบรวมเงินโกงเงินไป