หมิ่นประมาทหลายครั้งหลายหน ศาลไม่รอการลงโทษ|หมิ่นประมาทหลายครั้งหลายหน ศาลไม่รอการลงโทษ

หมิ่นประมาทหลายครั้งหลายหน ศาลไม่รอการลงโทษ

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

หมิ่นประมาทหลายครั้งหลายหน ศาลไม่รอการลงโทษ

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2624/2567

บทความวันที่ 3 พ.ค. 2568, 11:15

มีผู้อ่านทั้งหมด 253 ครั้ง


หมิ่นประมาทหลายครั้งหลายหน ศาลไม่รอการลงโทษ
#หมิ่นประมาทไม่รอการลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2624/2567
           จำเลยโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของจำเลยรวม 9 ครั้ง ต่างวันเวลากันแต่ละครั้งของการโพสต์ข้อความมีการแสดงความคิดเห็นได้ตอบและแสดงข้อเท็จจริงกับบุคคลอื่นที่ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นของแต่ละการโพสต์ข้อความเป็นส่วนๆ แยกต่างหากจากกันของแต่ละโพสต์ข้อความของจำเลยในลักษณะที่ยืนยันข้อเท็จจริงที่แตกต่างกันออกไป จำเลยกระทำโดยเจตนาใส่ความมุ่งประสงค์ที่จะทำลายชื่อเสียงของโจทก์หลายๆ ครั้ง เพื่อให้โจทก์ได้รับความเสียหายหลายครั้งและมีบุคคลอื่นได้มาอ่านข้อความที่จำเลยโพสต์หลายๆ คน โดยมีการโพสต์ข้อความโต้ตอบกับจำเลยในแต่ละโพสต์แยกต่างหากจากกัน แสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยที่ต้องการยืนยันข้อเท็จจริงแต่ละอย่างแต่ละครั้งแยกต่างหากจากกัน และประสงค์ต่อผลให้โจทก์เสียชื่อเสียงในแต่ละเรื่องแต่ละครั้งที่จำเลยโพสต์แตกต่างกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน มิใช่เป็นการกระทำกรรมเดียวและมีเจตนาเดียว
           โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 326, 328 ขอให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาทั้งหมดหรือแต่บางส่วนลงในหนังสือพิมพ์อย่างน้อย 1 ฉบับ ครั้งเดียวหรือหลายครั้ง โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา
           ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
           จำเลยให้การปฏิเสธ
           ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวม 9 กระทง จำคุกกระทงละ 1 ปี รวมจำคุก 9 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 ปี ให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาทั้งหมดหรือแต่บางส่วนในหนังสือพิมพ์ 1 ฉบับ หรือหลายฉบับ ครั้งเดียวหรือหลายครั้ง โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา
         จำเลยอุทธรณ์
         ศาลอุทธรณ์ ภาค 8 พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว จำคุก 1 ปี และปรับ 60,000 บาท ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 8 เดือน และปรับ 40,000 บาท  โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี นับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ให้จำเลยฟัง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 นอกจากนี้แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
          โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
           ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติว่า โจทก์เป็นเจ้าของธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และกรรมการผู้จัดการบริษัทหลายแห่งระหว่างวันที่ 11 มีนาคม 2562 ถึงวันที่ 21 เมษายน  2562 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยโพสต์ข้อความผ่านทางแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กจากบัญชีผู้ใช้ของจำเลยชื่อว่า P.ซึ่งจำเลยได้ตั้งค่าการโพสต์ข้อความประเภทที่บุคคลใด ๆ  ก็ตามที่ใช้แอปพลิเคชันเฟซบุ๊กหรือไม่ใช่แอปพลิเคชันเฟซบุ๊กสามารถเข้าถึงข้อความที่จำเลยโพสต์ได้ตามฟ้องรวม 9 ครั้ง 
           มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ในข้อแรกว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมหรือไม่  โจทก์ฎีกาว่า การโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทพร้อมแสดงความคิดเห็นโต้ตอบกับบุคคลที่สามของจำเลยในแต่ละครั้ง ตั้งแต่ครั้งที่ 1  วันที่ 11 มีนาคม 2562 ถึงครั้งที่ 9 วันที่ 21 เมษายน 2562 เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน จำเลยลงมือกระทำความผิดต่อโจทก์ต่างวันเวลา มีการแสดงความคิดเห็นโต้ตอบกับบุคคลที่สามต่างวันเวลากัน ประกอบกับพฤติการณ์และข้อเท็จจริงในแต่ละโพสต์รวม 9 ครั้ง ยืนยันข้อเท็จจริงที่แตกต่างกันออกไป บุคคลที่สามเห็นโพสต์และที่จำเลยแสดงความคิดเห็นโต้ตอบมีหลากหลายบุคคล แสดงให้เห็นว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนามุ่งประสงค์ทำลายชื่อเสียงของโจทก์จำนวนหลาย ๆ ครั้งเป็นการกระทำอันมีลักษณะหลายเจตนาโดยแต่ละเจตนาก็เป็นความผิดสำเร็จในตัวเองแล้ว จึงเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระมิใช่ความผิดกรรมเดียว เพราะเจตนาเดียว เห็นว่า จำเลยโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของจำเลยรวม 9 ครั้ง ต่างวันเวลากัน แต่ละครั้งของการโพสต์ข้อความก็มีการแสดงความคิดเห็นโต้ตอบและแสดงข้อเท็จจริงกับบุคคลอื่นที่ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นของแต่ละการโพสต์ข้อความเป็นส่วนๆ แยกต่างหากจากกันของแต่ละโพสต์ข้อความของจำเลยในลักษณะที่ยืนยันข้อเท็จจริงที่แตกต่างกันออกไป จำเลยกระทำโดยเจตนาใส่ความมุ่งประสงค์ที่จะทำลายชื่อเสียงโจทก์หลายๆ ครั้ง เพื่อให้โจทก์ได้รับความเสียหายหลายครั้งและมีบุคคลอื่นได้มาอ่านข้อความที่จำเลยโพสต์หลายๆ คน โดยมีการโพสต์ข้อความโต้ตอบกันกับจำเลยในแต่ละโพสต์แยกต่างหากจากกัน แสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยที่ต้องการยืนยันข้อเท็จจริงแต่ละอย่างแต่ละครั้งแยกต่างหากจากกันและประสงค์ต่อผลให้โจทก์เสียชื่อเสียงในแต่ละเรื่องแต่ละครั้งที่จำเลยโพสต์แตกต่างกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน การที่จำเลยโพสต์ข้อความ รวม 9 ครั้ง จึงเป็นการกระทำ 9 กรรม มิใช่เป็นการกระทำกรรมเดียวและมีเจคนาเดียว ดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 วินิจฉัยมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ในข้อนี้ฟังขึ้น
    มีปัญหาต้องวินิจฉัยประการต่อไปว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาลงโทษจำเลยเหมาะสมแล้วหรือไม่  โจทก์ฎีกาว่า ข้อเท็จจริงที่จำเลยนำมากล่าวใส่ความโจทก์ไม่เป็นความจริง อีกทั้งเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างจำเลยกับโจทก์ที่สามารถใช้สิทธิทางกฎหมายได้ด้วยวิธีการอื่น โจทก์ไม่เห็นด้วยที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 รอการลงโทษจำคุกจำเลย เห็นว่า การที่จำเลยโพสต์ข้อความใส่ความโจทก์ในเฟซบุ๊กของจำเลยที่เปิดเป็นสาธารณะที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เป็นการกระจายข้อความไปสู่สาธารณะหรือประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นบุคคลที่สาม ทั้งข้อความที่จำเลยโพสต์ก็เป็นเรื่องส่วนตัวจำเลยกับโจทก์ซึ่งการกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ในทันทีที่จำเลยโพสต์ข้อความไป ความเสียหายของโจทก์ยากที่จะแก้ไขได้คืน ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษารอการลงโทษจำเลยนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ในข้อนี้ฟังขึ้นแต่การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมโทษจำคุกที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 วางโทษจำคุก 1 ปี นั้น เห็นว่าหนักเกินไป จึงกำหนดโทษใหม่ให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดี
         พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวม 9 กระทง จำคุกกระทงละ 6 เดือน ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกกระทงละ 4 เดือน รวมจำคุก  36 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ และไม่ลงโทษปรับ นอกจากที่แก้ไขให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8

มีปัญหาข้อกฎหมายสอบถาม 02-948-5700 หรือ 081-616-1425 หรือ 081-625-2161, 081-821-7470

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก