4 วันยังจับไม่ได้ - ตั้งนำจับ 3 หมื่น ล่าหนุ่มคดียาหนีโรงพัก|4 วันยังจับไม่ได้ - ตั้งนำจับ 3 หมื่น ล่าหนุ่มคดียาหนีโรงพัก

4 วันยังจับไม่ได้ - ตั้งนำจับ 3 หมื่น ล่าหนุ่มคดียาหนีโรงพัก

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

4 วันยังจับไม่ได้ - ตั้งนำจับ 3 หมื่น ล่าหนุ่มคดียาหนีโรงพัก

  • Defalut Image

จากข่าวผู้ต้องหาในคดียาเสพติด จังหวัดหนองคายได้หลบหนีขณะถูกเบิกตัวไปสอบปากคำ

บทความวันที่ 10 ก.ค. 2563, 09:59

มีผู้อ่านทั้งหมด 760 ครั้ง


4 วันยังจับไม่ได้ - ตั้งนำจับ 3 หมื่น ล่าหนุ่มคดียาหนีโรงพัก

    จากข่าวผู้ต้องหาในคดียาเสพติด จังหวัดหนองคายได้หลบหนีขณะถูกเบิกตัวไปสอบปากคำ โดยมีแฟนสาวช่วยในการขับรถจักรยานยนต์เพื่อหลบหนี การกระทำดังกล่าว ผู้ต้องหาที่หลบหนีมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 190 โดยการหลบหนีจากที่คุมขังตามอำนาจของพนักงานสอบสวน และแฟนสาวของผู้ต้องหา ที่ช่วยเหลือในการหลบหนีจากการคุมขังตามอำนาจของพนักงานสอบสวน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 192
(ที่มา www.dailynews.co.th)

 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4915/2537
    ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นผู้ต้องหาในคดีชิงทรัพย์ถูกคุมขังอยู่ที่ห้องขังของสถานีตำรวจภูธรอำเภอท่าเรือ วันที่ 21 สิงหาคม 2534 เวลา8 นาฬิกา นายดาบตำรวจสิทธิ สืบกลิ่น เสมียนคดี แจ้งความประสงค์ต่อนายดาบตำรวจแก้ว แจ่มอารมย์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่สิบเวรว่าได้รับคำสั่งจากพันตำรวจตรีสุรชัย คีรีวิเชียร พนักงานสอบสวนให้มาพิมพ์ลายนิ้วมือของจำเลย นายดาบตำรวจแก้วจึงให้สิบตำรวจตรีประหยัด ดีเสมอ ช่วยควบคุมดูแลด้วย แล้วนายดาบตำรวจแก้วไขกุญแจห้องขังเปิดประตูเพื่อใส่กุญแจมือจำเลยก่อนนำจำเลยออกจากห้องขัง แต่จำเลยวิ่งสวนทางออกมาโดยนายดาบตำรวจแก้วไม่สามารถคว้าข้อมือจำเลยได้ทัน สิบตำรวจตรีประหยัดคว้าคอเสื้อจำเลยไว้แต่จำเลยดิ้นหลุดไปได้และวิ่งหลบหนีลงไปทางบันไดของสถานีตำรวจสิบตำรวจตรีเฉลียว รุ่งระวี ซึ่งยืนอยู่ตรงที่พักบันไดประสบเหตุดังกล่าว จึงเข้าสกัดจับจำเลยไว้ได้โดยมีนายดาบตำรวจแก้วและสิบตำรวจตรีประหยัดเข้าช่วยในการจับกุมด้วย เห็นว่านายดาบตำรวจแก้วปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ควบคุมจำเลยไว้ในห้องขังสถานีตำรวจดังกล่าวอันเป็นการควบคุมที่เจ้าพนักงานตำรวจจัดกำหนดขอบเขตเอาไว้ เมื่อจำเลยออกจากขอบเขตดังกล่าวโดยผู้มีอำนาจควบคุมจำเลยยังมิได้อนุญาตในลักษณะของการวิ่งหลบหนีออกมาพ้นเขตควบคุมแล้วไม่ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะติดตามจับกุมจำเลยได้หรือไม่ก็ตามการกระทำของจำเลยย่อมเป็นการหลบหนีไปในระหว่างที่ถูกคุมขังของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาเป็นความผิดสำเร็จแล้วไม่จำเป็นต้องหลบหนีให้พ้นออกไปจากตัวอาคารของสถานีตำรวจดังกล่าวจึงจะถือว่าการหลบหนีสำเร็จดังจำเลยกล่าวอ้าง คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ในปัญหานี้ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
    มาตรา 190 
ผู้ใดหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ของพนักงานอัยการ ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    ถ้าความผิดดังกล่าวมาในวรรคแรกได้กระทำโดยแหกที่คุมขัง โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    ถ้าความผิดตามมาตรานี้ได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืน หรือวัตถุระเบิด ผู้กระทำต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้ในสองวรรคก่อนกึ่งหนึ่ง
    มาตรา 192  ผู้ใดให้พำนัก ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ให้ผู้ที่หลบหนีจากการคุมขังตามอำนาจของศาล ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก