ศาลพิพากษาให้ผู้ค้ำประกันจ่ายหนี้แทน
คุณแม่ของดิฉันเป็นข้าราชการ ได้ไปค้ำประกันเงินกู้ให้กับญาติกัน แต่ญาติคนนั้นไม่ยอมชำระหนี้ให้กับธนาคาร ได้มีจดหมายทวงถามมาตลอด และจดหมายดังกล่าวนั้นก็มาที่บ้านด้วย จากความสัมพันธ์ฉันท์ญาติพี่น้องคุณแม่ได้เอาเอกสารไปให้และได้โทรบอกตลอดเวลา ซึ่งเค้าก็บอกว่าจะไปทำการเคลียร์กับธนาคารเอง จนมาวันหนึ่งได้มีหมายศาลเรียกให้ไปขึ้นศาล พวกข้าพเจ้าได้แจ้งข่าวสารให้กับญาติผู้นั้น และได้ไปขึ้นศาลตามนั้น แต่ญาติผู้นั้นไม่ได้ไป ซึ่งมาในวันนี้ได้มีคำตัดสินจากศาลให้โจทก์คนที่หนึ่งคือญาติผู้นั้นกับคุณแม่ของข้าพเจ้าร่วมกันชดใช้หนี้ ซึ่งในขณะนี้ติดต่อญาติคนนั้นไม่ได้เลย
อยากจะถามว่าในฐานะผู้ค้ำประกันพอจะมีทางออกทางไหน มั้ยคะ ถือเงินก็ไม่ได้ใช้ ยังต้องมาร่วมรับผิดชอบอีก
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
ตามกฎหมายแล้ว การทำสัญญาค้ำประกันนั้น เป็นสัญญาซึ่งบุคคลภายนอกโดยผู้ค้ำประกันได้ผูกพันต่อเจ้าหน้าที่เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น ตาม ป.พ.พ. มาตรา 680 เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้คุณแม่ของท่านร่วมรับผิดกับญาติลูกหนี้ในการชำระหนี้ หากคุณแม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ญาตินั้นมีทางที่จะชำระหนี้ดังกล่าวได้ และการที่จะบังคับให้ญาติชำระหนี้นั้นจะไม่เป็นการยาก หากคุณแม่พิสูจน์ได้ดังกล่าวแล้วธนาคารจะต้องบังคับการชำระหนี้รายนี้เอาจากทรัพย์ของลูกหนี้ก่อน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 689
แต่ถ้าหากคุณแม่ได้ชำระหนี้ให้แก่ธนาคารแทนญาติแล้ว คุณแม่ย่อมมีสิทธิที่จะไล่เบี้ยจำนวนหนี้ที่ได้ชำระแทนเอาจากญาติลูกหนี้ เพื่อต้นเงินกับดอกเบี้ย และเพื่อการต้องสูญหาย หรือเสียหายไปอย่างใด ๆ เพราะการค้ำประกันนั้น ตาม ป.พ.พ.มาตรา 693
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 680 อันว่าค้ำประกันนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลภายนอกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้ค้ำประกัน ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่ง เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น
อนึ่ง สัญญาค้ำประกันนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
มาตรา 689 ถึงแม้จะได้เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ดั่งกล่าวมาในมาตราก่อนนั้นแล้วก็ตาม ถ้าผู้ค้ำประกันพิสูจน์ได้ว่าลูกหนี้นั้นมีทางที่จะชำระหนี้ได้ และการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นจะไม่เป็นการยากไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องบังคับการชำระหนี้รายนั้นเอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อน
มาตรา 693 ผู้ค้ำประกันซึ่งได้ชำระหนี้แล้ว ย่อมมีสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาจากลูกหนี้เพื่อต้นเงินกับดอกเบี้ยและเพื่อการที่ต้องสูญหายหรือเสียหายไปอย่างใด ๆ เพราะการค้ำประกันนั้น
อนึ่ง ผู้ค้ำประกันย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของเจ้าหนี้บรรดามีเหนือลูกหนี้ด้วย