ผู้ชายหลาย...โลก
วันนี้นักสืบกุ้งมีเรื่องมาเล่านะคะเผื่อเป็นข้อคิดสำหรับอีกหลายคน..ที่จะเลือกคู่ชีวิต เรื่องราวของสาวเหลือน้อยคนนี้เธออายุประมาณ 74 ปีมาหานักสืบกุ้งต้องการสืบพฤติกรรมของสามี และต้องการจะฟ้องชู้และฟ้องหย่า เรียกค่าเสียหายด้วย เธอเล่าด้วยความเมามันส์อารมณ์ เมื่อพูดถึงสามี เธอเล่าว่าย้อนหลังไปประมาณ 40 ปีที่แล้ว ก่อนที่เธอกับสามีจะจดทะเบียนสมรสกัน วีรกรรมของชายคนนี้ไม่เบาคะ มีเมียมีลูกมาแล้วหลายคน เลิกรากับเมียเก่ามีลูกติดมาด้วยกัน 4 คน คนโตอายุ 15 ปี คนเล็ก 2 ขวบ ก่อนแต่งเธอก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่ แต่ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เห็นดีเห็นงามด้วย เธอก็เลยยอมแต่งงานและจดทะเบียนสมรสด้วย หลังจากที่เธอกับสามีจดทะเบียนสมรสกัน ตกลงที่จะเอาลูกติดของฝ่ายชายมาเลี้ยงดูด้วย 4 คน หลังจากที่แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับสามีผ่านไป 1 ปี เธอก็มีบุตรชายกับสามีอีกหนึ่งคนรวมทั้งหมดเป็น 5 คน ลูกเมียเก่าและลูกเธออายุห่างกันไม่เท่าไหร่ในระหว่างอยู่กินกันมานั้นสามีเป็นคนเจ้าชู้มาก ออกนอกบ้านทุกวันอ้างไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ ปล่อยให้เธอเลี้ยงลูก 5 คนอยู่บ้าน สามีชอบหาเรื่องทะเลาะ หลังจากนั้นก็ออกจากบ้าน ถ้าเธอบ่นก็จะด่าและโมโหร้ายจะเอาปืนมาจ่อยิง เพราะสามีพกปืนตลอดเวลาถ้าไม่พอใจก็จะเอาปืนมาขู่ ทุกครั้งที่สามีหายออกจากบ้านไป เธอไม่สามารถไปติดตามได้เพราะทิ้งลูกทั้ง 5 คนไม่ได้ เธอไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าสามีจะไปหญิงอื่นแอบซ่อนไว้ วันนึงมีคนพักอาศัยข้างบ้าน มาบอกเธอว่าเห็นสามีเธอแอบไปที่ห้องแถวข้างบ้านบ่อยครั้งและมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งพักอาศัยด้วยเธอจึงแอบสะกดรอยตามและสืบจนรู้ว่าสามีเธอนั้นได้ไปเลี้ยงดูหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวไทยใหญ่อายุประมาณ 16 ปีหล่อนชื่อนางเอ พอเธอจับได้แล้วก็ทะเลาะกัน เธอก็บอกให้สามีเลิกยุ่งเกี่ยวและทรัพย์สินในห้องของนางเอ เอามาคืนเธอให้หมด สามีก็ยอมเพราะถ้าสามีไม่ยอมเลิกกับนางเอ เธอก็จะเลิกกับสามี สามีฉลาด ยอมเลิกกับนางเอ เพราะเลิกกับเธอจะไม่มีคนเลี้ยงดูทั้งหมดให้ สามีจึงไปบอกเลิกกับนางเอ และขนย้ายทรัพย์สินรวมทั้งแอร์ในห้องนางเอ ออกมา แทนที่จะเอากลับบ้านมาให้เธอ แต่นำไปให้คนอื่นแทน เธอก็ตามสืบอีก จนรู้ว่าทรัพย์สินทั้งหมดที่เอามาจากบ้านนางเอเอาไปให้นางบี เมียน้อยอีกคน คนนี้ถึงขั้นที่ว่า สามีเธอแต่งงานและจัดพิธีแต่งงานที่บ้านของหญิง ซึ่งที่ผ่านเธอไม่เคยรู้มาก่อน นางบีแต่งงานกับสามีเธอหลังจากที่จดทะเบียนสมรสกับเธอได้แค่ 2 ปี สามีเธอมีบุตรกับนางบีอีก 2 คน พอจับได้เธอก็คาดคั้นสามีอีก ก็ยอมรับว่าได้จัดพิธีแต่งงานกับนางบีจริง และมีบุตรกับนางบีอีก 2 คนได้จดเบียนรับรองบุตรด้วย และให้นามสกุลของเขาด้วย พอได้ยินแบบนั้นเธอ บอก “กูจะบ้าตาย มันจะเอายังไง ลูกเป็นพวงแบบนี้ จะเลี้ยงไหวเหรอ” “นี่ถ้ามึงจดทะเบียนได้มึงคงจดกับมันแล้วมั้น “ เธอเล่าแบบโมโห ในขณะนั้นเธอบอกจะเลิกกับสามีและจะฟ้องชู้ แต่นางบีโทรศัพท์มาหาและขอร้องว่า “อย่าฟ้องชั้นเลย... ลูกชั้นยังเล็กทั้งสองคน” และอ้อนวอนเธอ ส่วนสามีก็รับปากว่าจะเลิกเจ้าชู้และเลิกยุ่งเกี่ยวกับเมียน้อยทั้งสองคน และหญิงอื่นที่คบก็จะเลิกทั้งหมด สามีขอกลับไปอยู่ที่บ้านต่างจังหวัด ด้วยเหตุผลแบบนี้ก็ว่าดีเหมือนกัน เพราะเนื่องจากว่าบ้านที่เธออยู่ในกรุงเทพนั้นมันติดกับบ้านเมียน้อยทั้งสองคน สามีรับปากแน่นอนและไปสาบานที่วัดด้วยว่าจะเลิกเป็นคนเจ้าชู้และเลิกกับหญิงทุกคน เธอยินยอมให้สามีกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดโดยเร็ว เธอให้รถยนต์ไปหนึ่งคันเพื่อเป็นยานพาหนะขับทำงานแถวต่างจังหวัด เพราะสามีทำงานรับเหมา ก็จะให้รับเฉพาะต่างจังหวัดเท่านั้น หลังจากนั้นเธอก็ไปมาหาสู่สามีตามปกติ ต่อมาด้วยสถานณ์โควิค สามีไม่ได้ทำงาน เนื่องจากงานรับเหมาก็ถูกยกเลิก สามีขอให้เธอลูกส่งเสียเงินให้เดือนละ 10,000 บาทในช่วงแรกเธอพอมีเก็บบ้างเล็กน้อย เพราะได้จากลูกๆบ้าง ก็ส่งให้ทุกเดือนไม่เคยขาดจนกระทั่งต่อมาสถานการณ์โควิดก็ไม่ผ่านไปสักที เธอไม่สามารถส่งเงินให้กับสามีได้ สามีก็เกิดความโมโหชอบโทรศัพท์มาด่าและ และข่มขู่จะฆ่าให้ตายทั้งโคตร ถ้าไม่ให้เงิน เธอกับลูกชายก็ต้องจำใจหาเงินส่งให้สามีบางเดือนได้10,000 บาทหรือ 5,000 บาท เดือนไหนส่งช้า ก็โทรศัพท์มาขู่ อยู่มาวันนึงมีคนรู้จักมาบอกเธอว่าเห็นสามีเธอไปกับหญิงคนหนึ่งคนแถวหมู่บ้านที่สามีอยู่ และพากันไปในตลาด หญิงคนนั้นชื่อว่า นาง ซีซี่ ประกาศทั่วตลาดให้ทุกคนรู้ว่าเป็นเมียของสามีเธออีกหนึ่ง และบอกทุกคนว่าสามีเธอจะฟ้องหย่าเธอและเอาเงินมาปลูกบ้านใหม่ เธอไม่อยากเห็นหน้าผัวตัวดี จึงมาหานักสืบกุ้ง ให้ไปติดตามเก็บหลักฐานให้หน่อย เธอบอกว่าถ้าไปเองอาจถูกยิงได้ อ้าว ! แล้วเราจะรอดมั้ยละ หลังจากที่ดิฉันได้ทราบข้อมูลได้รับเรื่องราวมาแล้วก็ส่งทีมงานนักสืบลงพื้นที่ทันที เราไม่พบสามีของเธออยู่ที่บ้าน แต่ได้ทราบว่า เขาไปอาศัยอยู่อีกหมู่บ้านนึงไม่ไกลจากที่เดิมมากนัก การที่เราจะเข้าหมู่บ้านตามต่างจังหวัดเพื่อไปหาข้อมูลหรือสืบไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะเพราะว่าถ้ามีรถแปลกหน้าหรือคนแปลกหน้าเข้าไปในหมู่บ้านเค้าก็จะ สงสัยทันทีเลยว่าคนพวกนี้จะมาทำอะไรหรือเปล่า เค้าก็จะจับจ้องตาดูตลอดแต่เราก็ทำเนียนค่ะเข้าไปตีสนิทคนในหมู่บ้านและตีสนิทกับผู้ใหญ่บ้านไปสอบถามข้อมูลหาข้อมูลลักษณะการทำงานวิจัยจึงได้ข้อมูลแล้วเข้าถึงบ้านของหล่อนคือนางซีซี่ เราเห็นสามีของผู้ว่าจ้างอยู่ที่บ้านของนางซีซี่ ทั้งคู่อยู่กันแบบผัวเมียเลยทุกคนในหมู่บ้านละแวกนั้นรู้กันหมด เราเก็บหลักฐานได้ไม่ยากเมื่อเราตีสนิทกับคนในหมู่บ้านเรียบร้อยแล้วแล้วก็ได้ข้อมูลมาได้ทั้งหลักฐานภาพถ่าย ที่จะสามารถขึ้นศาลได้ หลังจากที่ได้ข้อมูลเรียบร้อยแล้วก็รายงานให้เธอทราบทันที เธอก็ยืนยันว่าจะฟ้องชู้ฟ้องหย่าและเรียกค่าเสียหายจากจริงชู้ด้วย ผู้ว่าจ้างหันมาหาดิฉัน “คุณทนายช่วยระวังตัวด้วยนะคะ เขาพกปืนตลอดเวลา “ อ้าว! แบบนี้เอาไง จะไหวมั้ยเนี่ย เคสนี้รับทำหน้าที่นักสืบและทนายความด้วยเลยค่ะ สงสัยเวลาไปศาลต้องหาบอดี้การ์ดไปด้วย แบบนี้น่าจะโอเคกว่า มีปัญหาปรึกษาได้ค่ะ