รับสารภาพแล้วมีความจำเป็นต้องถามค้าน|รับสารภาพแล้วมีความจำเป็นต้องถามค้าน

รับสารภาพแล้วมีความจำเป็นต้องถามค้าน

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

รับสารภาพแล้วมีความจำเป็นต้องถามค้าน

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5895/2562

บทความวันที่ 8 ธ.ค. 2563, 11:12

มีผู้อ่านทั้งหมด 1075 ครั้ง


รับสารภาพแล้วมีความจำเป็นต้องถามค้าน แต่การถามค้านมิใช่เพื่อปฏิเสธแต่เพื่อให้เห็นพฤติการณ์ว่าสำนึกผิด และจะต้องเบิกความอ้างตนเองเป็นพยานว่าสำนึกในการกระทำความผิดจึงจะได้รับการลดโทษตามมาตรา 78

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5895/2562
             ขณะเกิดเหตุจำเลยมีอายุ 19 ปีเศษ  อยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่จะลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่งตาม ป.อ.มาตรา 76 ในชั้นพิจารณานัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การ จำเลยให้การรับสารภาพในความผิดอื่นตามฟ้อง คงให้การปฏิเสธในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ แต่เมื่อถึงวันสืบพยานโจทก์ จำเลยขอถอนคำให้การปฏิเสธในความผิดฐานดังกล่าว เป็นให้การรับสารภาพ เมื่อโจทก์นำพยานเข้าสืบประกอบคำรับสารภาพ จำเลยมิได้ถามค้านเพื่อปฏิเสธความผิดดังกล่าว  อีกทั้งจำเลยยังอ้างตนเองเป็นพยานเบิกความว่าสำนึกในความผิดที่กระทำแล้ว จึงให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาตามคำฟ้องอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล ทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น อันเป็นเหตุให้บรรเทาโทษที่จำเลยจะพึงได้รับประโยชน์ด้วยการลดโทษให้ตามที่ศาลจะพิจารณาเห็นสมควรที่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่จะลงในความผิดนั้นตาม ป.อ.มาตรา 78
             จำเลยมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 289(7) ประกอบมาตรา 80 ซึ่งบทบัญญัติมาตรา 289(7) ให้ระวางโทษประหารชีวิตสถานเดียว และมาตรา 80 ให้ลงโทษจำเลยสองในสามส่วนของโทษตามมาตรา 289(7) คือระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต ตาม ป.อ.มาตรา 52(1) เมื่อเห็นสมควรลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยหนึ่งในสามตาม ป.อ.มาตรา 76 ต้องเปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีตเป็นโทษจำคุก 50 ปี เสียก่อนตาม ป.อ.มาตรา 53 ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ป.อ.มาตรา 289(7) ประกอบมาตรา 80 โดยให้จำคุกจำเลย 33 ปี 4 เดือน จึงถูกต้องชอบด้วยกฎหมาย

ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 78
  เมื่อปรากฏว่ามีเหตุบรรเทาโทษ ไม่ว่าจะได้มีการเพิ่มหรือการลดโทษตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นแล้วหรือไม่ ถ้าศาลเห็นสมควรจะลดโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้นก็ได้
               เหตุบรรเทาโทษนั้น ได้แก่ผู้กระทำความผิดเป็นผู้โฉดเขลาเบาปัญญาตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีคุณความดีมาแต่ก่อน รู้สึกความผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดนั้น ลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานหรือให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา หรือเหตุอื่นที่ศาลเห็นว่ามีลักษณะทำนองเดียวกัน

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก