จ่ายเช็คชำระหนี้ตามสัญญายอม เมื่อผิดสัญญายอม ดำเนินคดีอาญาข้อหาเช็คเด้งได้ต่อไป|จ่ายเช็คชำระหนี้ตามสัญญายอม เมื่อผิดสัญญายอม ดำเนินคดีอาญาข้อหาเช็คเด้งได้ต่อไป

จ่ายเช็คชำระหนี้ตามสัญญายอม เมื่อผิดสัญญายอม ดำเนินคดีอาญาข้อหาเช็คเด้งได้ต่อไป

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

จ่ายเช็คชำระหนี้ตามสัญญายอม เมื่อผิดสัญญายอม ดำเนินคดีอาญาข้อหาเช็คเด้งได้ต่อไป

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1245/2567

บทความวันที่ 5 พ.ค. 2568, 15:54

มีผู้อ่านทั้งหมด 221 ครั้ง


จ่ายเช็คชำระหนี้ตามสัญญายอม เมื่อผิดสัญญายอม ดำเนินคดีอาญาข้อหาเช็คเด้งได้ต่อไป
#เช็คเด้ง #สัญญาประนีประนอมยอมความ #พรบ.เช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1245/2567
           การที่โจทก์และจำเลยที่ 1 ทำบันทึกข้อตกลงว่า ตามที่โจทก์และจำเลยที่ 1 ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีหมายเลขแดงที่ พ1873/2562 ของศาลแพ่งกรุงเทพใต้  แต่มีเหตุขัดข้องทำให้จำเลยที่ 1 ยังไม่อาจปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงได้ โจทก์และจำเลยที่ 1 ตกลงทำบันทึกดังต่อไปนี้ จำเลยที่ 1 ตกลงชำระเงิน 4,800,000 บาท ให้แก่โจทก์ แบ่งชำระ 2 งวด ชำระในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 เป็นเงิน 1,200,000 บาท และชำระในวันที่ 18 ธันวาคม 2562 เป็นเงิน 3,600,000 บาท โดยจำเลยทั้งสองร่วมกันสั่งจ่ายเช็ค 2 ฉบับ  ฉบับแรกสั่งจ่ายเงิน 1,200,000 บาท และฉบับที่สองสั่งจ่ายเงิน 3,600,000 บาท  หากจำเลยที่ 1 ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวครบถ้วน ให้ถือว่าภาระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งดังกล่าวเป็นอันสิ้นสุด แต่หากจำเลยที่ 1 ผิดนัดชำระหนี้ตามเช็คดังกล่าว ให้ถือว่าบันทึกข้อตกลงฉบับนี้เป็นอันสิ้นสุดลง และจำเลยที่ 1 ยินยอมให้โจทก์บังคับคดีได้เต็มจำนวนภาระหนี้ที่ระบุไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความทันที ตามบันทึกข้กตกลงดังกล่าวเป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองร่วมกันออกเช็คพิพาท  เพื่อชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่ง โดยมีข้อตกลงว่าหากผิดนัดยอมให้โจทก์บังคับคดีได้เต็มจำนวนภาระหนี้ที่ระบุไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความได้ทันที เมื่อจำเลยที่ 1  ผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามเช็คพิพาทฉบับที่ 2 จำนวน 3,600,000 บาท ให้แก่โจทก์ โจทก์จึงไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอีกต่อไป แต่จำเลยที่ 1 ยังคงผูกพันตามคำพิพากษาตามยอมเดิม หนี้ดังกล่าวที่จำเลยทั้งสองร่วมกันออกเช็คพิพาทชำระจึงไม่สิ้นผลผูกพันไปก่อนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งจะถือว่าคดีเลิกกันตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2543  มาตรา 7 สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมไม่ระงับไปตาม ป.วิ.อ.มาตรา 39(3)
          ส่วนบันทึกข้อตกลงท้ายรายงานการยึดทรัพย์ในภายหลังต่อมาที่มีข้อความว่า จำเลยที่ 1 จะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ 9,000,000 บาท ชำระในวันทำสัญญา 100,000 บาท ส่วนที่เหลือผ่อนชำระเป็นรายงวดจนกว่าจะะชำระครบ โดยชำระงวดสุดท้ายในวันที่ 30 กันยายน 2563 หากจำเลยที่ 1 ผิดนัดงวดหนึ่งงวดใดถือว่าไม่เคยมีข้อตกลงดังกล่าว ให้โจทก์บังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีหมายเลขแดงที่ พ1873/2562 ของศาลแพ่งกรุงเทพใต้นั้น  นอกจากจะเป็นข้อตกลงในชั้นบังคับคดีเพื่อชะลอการบังคับคดีแก่จำเลยที่ 1 แล้ว ยังเป็นข้อตกลงในการผ่อนชำระหนี้ตามเช็คพิพาทเท่านั้น  และตามข้อตกลงดังกล่าวไม่มีข้อความตอนใดแสดงว่าโจทก์ตกลงสละสิทธิในการดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งสองในทันทีหรือยอมความกัน จึงไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ไม่ทำให้มูลหนี้เดิมตามเช็คระงับไปแล้วเกิดหนี้ใหม่ตามบันทึกข้อตกลงท้ายรายงานการยึดทรัพย์ ทั้งไม่มีการเปลี่ยนแปลงสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ จึงไม่เป็นแปลงหนี้ใหม่  อันจะทำให้หนี้เดิมระงับไปแต่อย่างใด  เมื่อจำเลยที่ 1 มิได้ใช้เงินตามเช็คพิพาทฉบับที่ 2 ให้โจทก์ และหนี้ที่ได้ออกเช็คเพื่อใช้เงินนั้นก็ไม่สิ้นผลผูกพันตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 7 คดีจึงไม่เลิกกัน สิทธินำคดีอาญามาฟ้องโจทก์ย่อมไม่ไม่ระงับไปตาม ป.วิ.อ.มาตรา 39(2) และ(3)

มีปัญหาข้อกฎหมายสอบถาม 02-948-5700 หรือ 081-616-1425 หรือ 081-625-2161, 081-821-7470

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก