ไฟไหม้\"โกลบอลเฮ้าส์\"เชียงใหม่วอด3พันล้าน|ไฟไหม้\"โกลบอลเฮ้าส์\"เชียงใหม่วอด3พันล้าน

ไฟไหม้\"โกลบอลเฮ้าส์\"เชียงใหม่วอด3พันล้าน

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ไฟไหม้\"โกลบอลเฮ้าส์\"เชียงใหม่วอด3พันล้าน

ทนายคลายทุกข์ขอนำคดีเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นโดยประมาทของพนักงานซ่อมบำรุง ที่ทำให้เกิดประกายไฟลุกไหม้ สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินมูลค่ามากมาย

บทความวันที่ 7 พ.ย. 2551, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 3298 ครั้ง


ไฟไหม้"โกลบอลเฮ้าส์"เชียงใหม่วอด3พันล้าน

ไฟไหม้"โกลบอลเฮ้าส์"เชียงใหม่วอด3พันล้าน

 

            ทนายคลายทุกข์ขอนำคดีเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นโดยประมาทของพนักงานซ่อมบำรุง  ที่ทำให้เกิดประกายไฟลุกไหม้  สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินมูลค่ามากมาย  ซึ่งตามกฎหมายแล้วได้ครบองค์ประกอบความผิดของคดีเพลิงไหม้ดังต่อไปนี้

 

ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 225 ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท และเป็นเหตุ ให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหาย หรือการกระทำโดยประมาทนั้นน่าจะเป็น อันตรายแก่ชีวิตของบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 227 ผู้ใดเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุมหรือ ทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอน อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้น โดย ประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

พระเพลิงผลาญห้าง "โกลบอลเฮ้าส์" เวียงกุมกาม ใหญ่สุดในภาคเหนือ ดับเพลิง 20 คัน ระดมฉีดน้ำร่วม 10 ชั่วโมงไม่สงบ กว่า 250 ชีวิตหนีตายโกลาหล คาดสูญ 3,000 ล้าน รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ประกาศเขตอันตราย เล็งทุบทิ้งหวั่นถล่มซ้ำ ตร.เร่งสอบสาเหตุ เผยทำประกันไว้

 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ต.ท.ดรุณ ทุ่นใจ สารวัตรเวร สภ.สารภี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ศูนย์การค้าวัสดุก่อสร้าง โกลบอลเฮ้าส์ สาขาเวียงกุมกาม ตั้งอยู่ถนนวงแหวนรอบกลาง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโมเดิร์นเทรดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างครบวงจรขนาดใหญ่สุดในพื้นที่ภาคเหนือ จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมด้วยรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัย

 

 ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียว พื้นที่กว่า 2.5 หมื่นตารางเมตร พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างหนัก มีกลุ่มควันพวยพุ่งสูงเต็มท้องฟ้า พนักงานของศูนย์การค้าและลูกค้ากว่า 300 คน วิ่งออกจากอาคารด้วยความโกลาหล หลายคนร้องไห้ด้วยความตกใจ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ระดมรถดับเพลิงจากหลายอำเภอมาช่วยดับไฟรวมกว่า 20 คัน แต่กระแสลมที่พัดแรงทำให้เปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว รวมทั้งภายในอาคารมีสินค้าซึ่งเป็นวัสดุเชื้อเพลิงเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก

 

 จากนั้นเกิดเหตุระทึกขึ้น เมื่อผนังปูนด้านข้างและเพดานยุบตัวลงมาทับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 2 คน คนหนึ่งถูกปูนตกใส่ อีกคนติดอยู่ภายในรถดับเพลิง เจ้าหน้าที่ต้องนำชะแลงงัดซากปูนออกท่ามกลางไฟที่กำลังลุกไหม้ใกล้กับบริเวณที่มีถังก๊าซ กระทั่งสามารถช่วยทั้งสองคนออกมาได้และนำตัวส่งโรงพยาบาล ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนปลอดภัยแล้ว

 

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำกระทั่งถึงเวลา 19.00 น. หรือรวมกว่า 9 ชั่วโมง แต่เพลิงยังไม่สงบ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ต้องใช้เวลาตลอดทั้งคืนนี้ (6 พ.ย.) กว่าจะดับไฟได้มอดสนิท ในส่วนของตัวอาคารถูกไฟไหม้ทั้งหลัง นายสมเกียรติ วงศ์จันทร์เสือ ผู้จัดการโกลบอลเฮ้าส์ สาขาเวียงกุมกาม แจ้งว่า พนักงานทั้งหมดหนีออกมาทัน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่สินค้าในศูนย์การค้าและโกดังขนออกมาได้เพียงบางส่วน ประเมินความเสียหายเบื้องต้นตัวอาคารกว่า 300 ล้านบาท และสินค้าในโกดัง รวมทั้งสิ้นประมาณ 3,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นเหตุไฟไหม้หนักที่สุดในรอบหลายปี

 

            นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า บริษัททำประกันอัคคีภัยไว้กับบริษัทไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย แต่ไม่สามารถเปิดเผยวงเงินได้ ในส่วนของพนักงานสาขาทั้ง 250 คน ผู้บริหารยืนยันว่าจะไม่มีการเลิกจ้าง เนื่องจากบริษัทมีแผนขยายสาขาอยู่แล้ว

 

            ด้านนายสมชาย พนักงานโกลบอลเฮ้าส์ ที่ประสบเหตุ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนและพนักงานคนอื่นๆ กำลังตรวจสอบสินค้าภายในโกดังเก็บสินค้าที่อยู่ด้านหลัง มองเห็นไฟกำลังลามไหม้มาจากหลังคาและตกลงมาใส่ พร้อมกันนั้นก็เกิดเสียงคล้ายระเบิดดังหลายครั้งในห้องไฟฟ้าและห้องเก็บสี ซึ่งอยู่ข้างเคียง และได้ยินเสียงพนักงานตะโกนร้องว่าไฟไหม้เสียงดังลั่น จึงรีบวิ่งตรงไปประตูทางออก แต่ติดอยู่ข้างในสำลักควันอยู่ 1-2 นาที เนื่องจากเพื่อนพนักงานต่างหนีตายไปอัดแน่นที่ประตูทางออก แต่ก็สามารถออกมาได้อย่างปลอดภัย

 

            นายสมชายกล่าวอีกว่า พนักงานบางส่วนที่ออกมาพยายามจะช่วยกันขนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีราคาออกมา แต่เนื่องจากไฟลุกไหม้อย่างหนัก มีเสียงแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ตะโกนบอกว่าบางส่วนมีถังก๊าซ เกรงว่าจะเกิดระเบิด จึงรีบหนีออกจากตัวอาคารเพื่อเอาชีวิตรอด โดยไม่สามารถช่วยขนสินค้าออกมาได้

 

 ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ พ.ต.ท.ดรุณ สันนิษฐานว่า ต้นเพลิงมาจากหลังคาบนห้องเก็บสี ก่อนเพลิงลุกไหม้ช่างกำลังอ๊อกเหล็กเชื่อมโครงหลังคา ทำให้ประกายไฟกระเด็นไปถูกฉนวนกันความร้อนบนหลังคา พนักงานที่เห็นเหตุการณ์ได้ช่วยกันดับ แต่เนื่องจากอยู่สูงจึงฉีดน้ำดับไม่ถึง ทำให้เพลิงไหม้ลามไปตามฉนวนบนหลังคาเป็นแนวยาว จากนั้นลูกไฟที่ไหม้ตลอดแนวหลังคาได้ตกลงมาใส่ห้องเก็บสีเป็นจุดแรก ซึ่งเป็นห้องเก็บทินเนอร์และกระป๋องสีจำนวนมาก จากนั้นเพลิงได้ลุกลามไปยังโซนไฟฟ้า และโซนอื่นๆ ภายในอาคาร กระทั่งไหม้ไปทั่วบริเวณ อย่างไรก็ตาม จะรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพื่อสรุปสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป

 

            ต่อมา พล.ต.ต.สิทธิพงศ์ ปุณโณฑก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (รอง ผบช.ภาค 5) สั่งกำชับให้พนักงานสอบสวน สภ.สารภี สอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้อย่างรอบคอบ พร้อมสั่งการให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลสถานที่เกิดเหตุตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลป้องกันทรัพย์สินมีค่าส่วนอื่นที่หลงเหลือ และนำไปวางไว้บริเวณลานจอดรถ

 

            ขณะเดียวกัน นายไพโรจน์ แสงภู่วงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ศูนย์การค้าวัสดุก่อสร้างโกลบอลเฮ้าส์ว่า จังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่อันตราย และสั่งห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปโดยเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าโครงสร้างอาคาร โดยเฉพาะผนังกำแพงทั้งสี่ด้าน ซึ่งมีความสูงเกือบ 10 เมตร และโดนความร้อนอาจพังถล่มลงมา ทั้งนี้หลังเพลิงสงบเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจะเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคาร หากเห็นว่าไม่ปลอดภัยจะสั่งให้ทำลายทันที

 

            วันเดียวกัน ทันทีที่ นายวิทูร สุริยวนากุล ประธานบริหารบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าของศูนย์การค้าวัสดุก่อสร้างโกลบอลเฮ้าส์ ทราบเหตุไฟไหม้ ได้ออกเดินทางโดยเครื่องบินพาณิชย์จากท่าอากาศยานขอนแก่นไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อต่อเครื่องไปยัง จ.เชียงใหม่ ส่วนภรรยาของนายวิทูรถึงกับเป็นลมล้มพับ ซึ่งขณะนี้ยังทำใจไม่ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่สามารถเดินทางมาทำงานที่สำนักงานใหญ่ที่สาขาร้อยเอ็ดได้ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามไปยังเลขานุการของนายวิทูร ซึ่งปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล โดยให้เหตุผลว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน

 

            ความเป็นมาของศูนย์การค้าวัสดุก่อสร้างโกลบอลเฮ้าส์ เริ่มจากเมื่อปี 2522 นายวิทูรเริ่มทำงานครั้งแรกด้วยงานรับเหมาก่อสร้างบ้านที่อยู่อาศัยใน จ.ร้อยเอ็ด เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาได้ประมาณ 7 ปี ก็มีแนวคิดจะเปิดร้านจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง ต่อมาได้ลงทุนเปิดกิจการส่วนตัว โดยเปิดร้านจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง เครื่องสุขภัณฑ์และฮาร์ดแวร์ต่างๆ ชื่อ บริษัท ร้อยเอ็ดฟาร์ม จำกัดซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด เมื่อกิจการรุ่งเรืองขึ้น จึงขยายพื้นที่ขายบริเวณใกล้เคียงกัน เนื้อที่ 480 ตารางเมตร เปิดร้านจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง โดยเพิ่มสินค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

 

            ในปี 2538 ซึ่งขณะนั้นนับว่าเป็นช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจพอดี แต่นายวิทูรได้สวนกระแสเศรษฐกิจ โดยเปิดห้าง "โกลบอลเฮ้าส์" แห่งแรกที่ จ.ร้อยเอ็ด ด้วยเงินลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ต่อมาเมื่อกลางปี 2543 เปิดสาขา 2 ที่ จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี เป็นสาขาที่ 3 กระทั่งวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2550 "โกลบอลเฮ้าส์" สาขาเวียงกุมกาม จ.เชียงใหม่ เปิดจำหน่ายสินค้าอย่างเป็นทางการ บนเนื้อที่กว่า 3 หมื่นตารางเมตร จัดเก็บสินค้าได้กว่า 7 หมื่นรายการ จำนวนกว่าล้านชิ้น ด้วยเงินลงทุนกว่า 400 ล้านบาท

 

 เมื่อเวลา 15.00 น. นายเทพกุล พูลลาภ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปตรวจดูความเสียหายที่ จ.เชียงใหม่ โดยระบุว่ามูลค่าความเสียหายของบริษัทจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ไม่ใช่ 3,000 ล้านบาท แต่อยู่ที่ 400-500 ล้านบาท ซึ่งแบ่งออกเป็นส่วนของอาคาร 100 ล้านบาท สินค้าที่เสียหายอีก 200 กว่าล้านบาทเท่านั้น

 

            "ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากบริษัททำประกันครอบคลุมทั้งในส่วนของตัวอาคารวงเงินประกันที่ 138.5 ล้านบาท ในส่วนของสินค้าวงเงินประกันที่ 280 ล้านบาท ในส่วนของพนักงานบริษัทจะดูแลอย่างเต็มที่ เพราะบริษัทมีสาขาที่ต่างจังหวัดอีกรวม 6 แห่ง คือที่ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุดรธานี นครปฐม ระยอง และชลบุรี ก็จะส่งพนักงานกระจายกันไปอยู่ตามสาขาต่างๆ ไปก่อน และมีแผนจะเร่งฟื้นกิจการสาขาเชียงใหม่โดยเร็วโดยใช้พื้นที่เดิม" นายเทพกุลกล่าว

 

 ผู้บริหารโกลบอลเฮ้าส์กล่าวอีกว่า โกลบอลเฮ้าส์ที่เชียงใหม่ ซึ่งเปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2549 การแข่งขันทางการตลาดในธุรกิจประเภทเดียวกันถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง แต่ถือว่าประสบความสำเร็จ มีกำไรต่อเนื่องทุกปี เฉพาะที่สาขาเวียงกุมกามมีรายได้จากการจำหน่ายเฉลี่ยตก 2 ล้านบาทต่อวัน

ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

 

 

 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก