โทร.แล้วขับ เริ่มใช้พฤษภาคม 51
วันนี้ทนายคลายทุกข์ขอนำข่าวของกองบัญชาการตำรวจนครบาล มาให้เพื่อนสมาชิกได้รับทราบ
ข่าวเรื่องโทร.แล้วขับที่จะมีการประกาศใช้ต้นเดือนพฤษภาคม 51 นี้
ทนายคลายทุกข์ขอนำเสนอว่า กฎหมายเรื่องที่ถ้าทำได้ จะเป็นการจัดระเบียบในเรื่องของการจราจรได้หลายอย่าง แต่ท่านลองคิดดูว่า
กม.เรื่องนี้จะสามารถบังคับใช้ได้จริงหรือไม่ และจะสามารถถ่ายได้จริงหรือ เพราะถ้ารถติดฟิล์ม กล้องจะสามารถมองทะลุเข้าไปได้หรือไม่
หรือต้องมีกม.ให้รถที่ติดฟิล์มบังคับใช้เรื่องของการติดฟิล์มใหม่หรือเปล่า
ในช่วงของการจราจรติดขัด
จะเป็นการเพิ่มงานให้กับตำรวจจราจรหรือไม่
และถ้าคนที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นแล้วไม่ได้คุย กล้องจับได้ จะเป็นเรื่องที่วุ่นวายตามมาหรือไม่
ทนายคลายทุกข์จึงขอนำกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาท่านได้ศึกษากัน
แล้วดูว่ากม.เรื่องนี้จะบังคับใช้ได้จริงหรือไม่
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2551
?มาตรา 43 (9) ในขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่
เว้นแต่การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยใช้อุปกรณ์เสริม
สำหรับการสนทนาโดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์หรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น?
?มาตรา 157 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 35
มาตรา 43 (3)(4)(6)(7) หรือ (9)
มาตรา 45 มาตรา 46 มาตรา 47
มาตรา 48 มาตรา 53 มาตรา 65 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 125 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สี่ร้อยบาทถึงหนึ่งพันบาท
?
รายละเอียดเนื้อข่าวมีดังนี้
ตร.ทุ่มงบ 5 ล้าน ซื้อกล้องถ่ายรูป ?โทร.แล้วขับ? ร่อนหมายเรียกถึงบ้าน!!
ตำรวจเอาจริง! "โทรแล้วขับ"
โดนจับแน่ เตรียมทุ่มงบ 5 ล้าน หากล้องจับผิดตีนผี ซิ่งหนีตำรวจ
พร้อมร่อนหมายเรียกถึงบ้าน กำชับทุกพื้นที่ตรวจสอบด่านลอยหากยังมีสั่งฟันวินัย
วันนี้ (14
ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.
"ในทางปฏิบัติยังอนุโลมให้ตำรวจจราจรใช้โทรศัพท์มือถือ
ถ่ายภาพผู้ฝ่าฝืนใช้โทรศัพท์มือถือ
หรือทะเบียนรถไว้เป็นหลักฐานและนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ท้องที่
เพื่อตรวจสอบเจ้าของรถเพื่อออกหมายเรียกผู้ต้องหาได้ถึงบ้าน
และนำตัวมาดำเนินคดีได้ในภายหลังแม้จะขับรถหลบหนีไปได้พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ได้กำชับสารวัตรจราจรทั้ง 88
สน.ให้เร่งประชาสัมพันธ์ไม่ให้ผู้ขับขี่ฝ่าฝืนก่อนจะเริ่มกวดขันจริงจัง
อยากให้ประชาชนเคารพกฎหมาย ไม่ต้องคอยหลบหลีกเจ้าหน้าที่ เพียงแค่ใช้อุปกรณ์เสริม
เช่น บลูทูธ หรือสมอลล์ทอล์ก
ไม่อยากให้ต้องถูกจับกุมแต่ตำรวจขอให้มีจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากกว่า
ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนเข้ามาว่าในบางพื้นที่ยังมีตำรวจจราจรตั้งด่านลอย
คอยตรวจจับนั้น
ได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกท้องที่ตรวจตราหากมีการตั้งด่านลอยจริงให้ดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด
ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการในการวิเคราะห์ข้อกฎหมาย