WebBoard :กฎหมาย|สอบถาม ภาระหนี้ ต่อผู้ค้ำประกัน ซึ่งเป็น มารดา ค้ำประกัน เช่า-ซื้อรถ แก่บุตร

สอบถาม ภาระหนี้ ต่อผู้ค้ำประกัน ซึ่งเป็น มารดา ค้ำประกัน เช่า-ซื้อรถ แก่บุตร

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

สอบถาม ภาระหนี้ ต่อผู้ค้ำประกัน ซึ่งเป็น มารดา ค้ำประกัน เช่า-ซื้อรถ แก่บุตร

  • 298
  • 1
  • post on 28 พ.ย. 2563, 17:56

สวัดดีครับ


ขอปรึกษา ภาระหนี้ ผู้ค้ำประกัน ซึ่งเป็นมารดา ค้ำประกัน เช่า-ซื้อ รถยนต์ให้บุตร



       คือ มารดาผม ผมบุตร 3คน   คนที่1คือ บุตรต่างบิดา     ผมเป็นบุตรคนที่2  และ มี น้องชายคนสุดท้องอีก 1คน      ประมาณปี พ.ศ 2536  พี่ชายคนที่  ได้ไปเช่า-ซื้อ รถยนต์   โดยได้นำมารดาไปเป็นผู้ค้ำประกัน  ต่อมาขาดส่งค่างวด  ทางไฟแนนซ์  ได้ทำหนังสือ ติดตามทวงถาม  และ ส่งฟ้อง ตามขั้นตอน เนื่องจากพี่ชาย ไม่เคยไปติดต่อทางเจ้าหนี้     และ ในที่สุด ทางไฟแนนซ์ ได้ฟ้องผู้ค้ำประกันคือ มารดา ซึ่ง  มารดา ไม่รู้หนังสือ อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้  และ มาการ ผมได้ อาศัยอยู่กั บิดา ของผม ที่บ้าน อยู่ต่างจังหวัด  ผม และ น้องชาย   ได้ เข้า มาทำงาน ใน กทม หลายปี นานๆทีจึงจะกลับ ไปเยี่ยมบ้านเกิด   และ เมื่อปี พ.ศ. 2556 ได้มี หมายปิดประกาศ จาก กรรมบังคับคดี ส่งมาแจ้ง ขาย ที่ดินของมาดาร  ทอดตลาด โดย ผู้โจทย์ฟ้อง คือ ไฟแนนซ์     ขายทอด เรื่อยมา จนถึง ปี พ.ศ. 2557  ผมได้ย้ายกลับมา อยู่บ้านเกิด และได้มีการ เข้าไปติดต่อ เจ้าหนี้ เพื่อขอไถ่ถอน   ที่ดินแปลงที่ขายทอดตลาด  ที่ดินแปลงดังกล่าว แม่ ได้เคยพูดไว้ จะแบ่งให้ลูก เท่าๆ กัน  ที่ดินแปลงนี้ ประกอบด้วย สิ่งปลูกสร้าง คือบ้าน 2หลัง  หลังแรง คือบ้านของแม่   หลังที่สอง คือบ้านของพี่ชาย  อีกส่วนต่อจากบ้าน เป็นป่าละเมาะ  ซึ่ง ส่วนที่เป็นป่าละเมาะ แม่กล่าวยกให้ผม  ส่วนของพี่ชายคนโต แม่กล่าว จะแบ่ง ที่ดินส่วนที่พี่ชายปลูกบ้านไว้ แบ่งเป็นส่วนของพี่ชายคนโต   และ ส่วนบ้านแม่ ซึ่งในที่ดินแปลงนี้ บ้านแม่ จะอยู่ส่วนตรงกลาง แม่มอบให้ น้องชายคนเล็กพร้อมตัวบ้านของแม่   และ เมื่อผมได้ติดต่อเจ้าหนี้คือไฟแนนซ์ เพื่อขอไถ่ถอน แล้ว  อีกทางหนึ่งผมได้ติดต่อ ขายที่ดิน ในส่วนของผม คือ ส่วนที่เป็นป่าละเมาะ แก่ผู้ซื้อ โดย คุยกับผู้ซื้อ ที่จะขายในราคา จำนวนหนึ่ง( ไม่ขอเปิดเผย จำนวน ) แต่ เงินจำนวนที่ขาย จะให้ผู้ซื้อ ไถ่ถอน ที่ดินจาก บังคับคดีออกมาให้ เหลือส่วนต่าง ที่ตกในจำนวนราคาขาย ค่อยจ่ายเงินกันที่หลัง      หลังจากตกลงกับผู้ซื้อได้   ในวันที่นัดชำระเงินกัน  พี่ชายคนโต ได้มา วิวาทะ ทะเลาะกัน โดยพี่ได้บอก ว่าที่ดินแปลงนี้  พี่ชายต้องได้ทั้งหมด  เมื่อ แม่เห็น พี่ชายเข้ามา ทะเลาะกัน ก็อาการ ช็อค ทางผมต้องนำแม่ส่งโรงพยาบาล ในวันที่ตกลงจ่ายเงิน ค่าซื้อขายที่ดิน    ภายหลัง แม่พื้น แม่ ผม และ น้องชายคนเล็ก ได้ปรึกษากัน จะยกที่ดินแปลงดังกล่าวให้พี่ชาย ทั้งหมด แต่บ้าน เนื่องจากมีข้อตกลง บางอย่าง กับพี่ชาย โดยมี สักขีพยาน คนกลางหลายคน ร่วม รับฟัง ( รายละเอียดไม่ขอกล่าวถึง )   หลังจากตกลงกัน ผ่านมา 5ปี  พี่ชาย คนโต ได้มาฟ้อง ให้ผมแบ่งที่ดินอีก1แปลง ซึ่งแม่ ยกให้ผมกับน้องชาย  ซึ่ง จุดนี้พี่ชายก็รับทราบ ว่าแม่ มอบให้ผมและ น้องชายคนเล็ก  ซึ่งที่ดินแปลงที่2  ต่างจาก แปลงแรก คือ เป็นที่นา อยู่นอกชุมชน  ให้ผมและน้องคนเล็ก แบ่ง บริเวณที่นา ไว้ ปลูกบ้าน  พี่ชายได้ฟ้้้้้องร้องของแบ่ง       คำถามคือ  หากไม่เป็นตามข้อตกลงที่เคยคุยกับพี่ชาย  ในตอนที่ ผมและน้องคนเล็ก ได้ยกกรรมสิทธิ์ ที่ดินสัดส่วน ของผม และ น้องคนเล็ก ให้พี่ชายคนโต  ในแปลงแรก    ส่วนนี้ ผมและน้อง จะเรียกร้องคืนได้หรือไม่   เนื่องจากที่ดินแปลงแรก ที่ตกลงยกให้ โดยไม่เต็มใจเท่าไหร่  เป็นที่ดินในย่าน แหล่งชุมชน

    ส่วนของผม  ผมสามารถ เรียกเงิน ในจำนวนที่ พี่ชายขาดไปได้หรือไม่  และ ส่วนของน้องชายคนเล็กผม ที่ พี่ชาย ขายในภายหลัง      และ  หนี้ ที่ไฟแนนซ์ฟ้องร้อง จนเกิดการ ขายทอดตลาด  โดยมาจากการเช่า-ซื้อ รถ ของพี่ชาย  และ แม่ ได้เป็นผู้ค้ำประกัน  หากผมจะฟ้องร้อง เรียกส่วนของผม และ น้องชาย กลับคืน  หนี้ ส่วนนี้ ที่ปัจจุบัน ได้ใช้หนี้ไปหมดแล้ว   ผมและน้องชาย คนเล็ก ต้องหาร  หักล้าง หนี้ของของแม่ด้วยหรือไม่

โดยคุณ tmesan (172.68.xxx.xxx) 28 พ.ย. 2563, 17:56

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

                                                       แก้ไขข้อความ


สวัสดี ครับ


ขอปรึกษา ภาระหนี้ ผู้ค้ำประกัน ซึ่งเป็นมารดา ค้ำประกัน เช่า-ซื้อ รถยนต์ให้บุตร



       คือ มารดาผม ผมบุตร 3คน   คนที่1คือ บุตรต่างบิดา     ผมเป็นบุตรคนที่2  และ มี น้องชายคนสุดท้องอีก 1คน      ประมาณปี พ.ศ 2536  พี่ชายคนที่  ได้ไปเช่า-ซื้อ รถยนต์   โดยได้นำมารดาไปเป็นผู้ค้ำประกัน  ต่อมาขาดส่งค่างวด  ทางไฟแนนซ์  ได้ทำหนังสือ ติดตามทวงถาม  และ ส่งฟ้อง ตามขั้นตอน เนื่องจากพี่ชาย ไม่เคยไปติดต่อทางเจ้าหนี้     และ ในที่สุด ทางไฟแนนซ์ ได้ฟ้องผู้ค้ำประกันคือ มารดา ซึ่ง  มารดา ไม่รู้หนังสือ อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้  และ มาการ ผมได้ อาศัยอยู่กั บิดา ของผม ที่บ้าน อยู่ต่างจังหวัด  ผม และ น้องชาย   ได้ เข้า มาทำงาน ใน กทม หลายปี นานๆทีจึงจะกลับ ไปเยี่ยมบ้านเกิด   และ เมื่อปี พ.ศ. 2556 ได้มี หมายปิดประกาศ จาก กรรมบังคับคดี ส่งมาแจ้ง ขาย ที่ดินของมาดาร  ทอดตลาด โดย ผู้โจทย์ฟ้อง คือ ไฟแนนซ์     ขายทอด เรื่อยมา จนถึง ปี พ.ศ. 2557  ผมได้ย้ายกลับมา อยู่บ้านเกิด และได้มีการ เข้าไปติดต่อ เจ้าหนี้ เพื่อขอไถ่ถอน   ที่ดินแปลงที่ขายทอดตลาด  ที่ดินแปลงดังกล่าว แม่ ได้เคยพูดไว้ จะแบ่งให้ลูก เท่าๆ กัน  ที่ดินแปลงนี้ ประกอบด้วย สิ่งปลูกสร้าง คือบ้าน 2หลัง  หลังแรง คือบ้านของแม่   หลังที่สอง คือบ้านของพี่ชาย  อีกส่วนต่อจากบ้าน เป็นป่าละเมาะ  ซึ่ง ส่วนที่เป็นป่าละเมาะ แม่กล่าวยกให้ผม  ส่วนของพี่ชายคนโต แม่กล่าว จะแบ่ง ที่ดินส่วนที่พี่ชายปลูกบ้านไว้ แบ่งเป็นส่วนของพี่ชายคนโต   และ ส่วนบ้านแม่ ซึ่งในที่ดินแปลงนี้ บ้านแม่ จะอยู่ส่วนตรงกลาง แม่มอบให้ น้องชายคนเล็กพร้อมตัวบ้านของแม่   และ เมื่อผมได้ติดต่อเจ้าหนี้คือไฟแนนซ์ เพื่อขอไถ่ถอน แล้ว  อีกทางหนึ่งผมได้ติดต่อ ขายที่ดิน ในส่วนของผม คือ ส่วนที่เป็นป่าละเมาะ แก่ผู้ซื้อ โดย คุยกับผู้ซื้อ ที่จะขายในราคา จำนวนหนึ่ง( ไม่ขอเปิดเผย จำนวน ) แต่ เงินจำนวนที่ขาย จะให้ผู้ซื้อ ไถ่ถอน ที่ดินจาก บังคับคดีออกมาให้ เหลือส่วนต่าง ที่ตกในจำนวนราคาขาย ค่อยจ่ายเงินกันที่หลัง      หลังจากตกลงกับผู้ซื้อได้   ในวันที่นัดชำระเงินกัน  พี่ชายคนโต ได้มา วิวาทะ ทะเลาะกัน โดยพี่ได้บอก ว่าที่ดินแปลงนี้  พี่ชายต้องได้ทั้งหมด  เมื่อ แม่เห็น พี่ชายเข้ามา ทะเลาะกัน ก็อาการ ช็อค ทางผมต้องนำแม่ส่งโรงพยาบาล ในวันที่ตกลงจ่ายเงิน ค่าซื้อขายที่ดิน    ภายหลัง แม่พื้น แม่ ผม และ น้องชายคนเล็ก ได้ปรึกษากัน จะยกที่ดินแปลงดังกล่าวให้พี่ชาย ทั้งหมด แต่บ้าน เนื่องจากมีข้อตกลง บางอย่าง กับพี่ชาย โดยมี สักขีพยาน คนกลางหลายคน ร่วม รับฟัง ( รายละเอียดไม่ขอกล่าวถึง )   หลังจากตกลงกัน ผ่านมา 5ปี  พี่ชาย คนโต ได้มาฟ้อง ให้ผมแบ่งที่ดินอีก1แปลง ซึ่งแม่ ยกให้ผมกับน้องชาย  ซึ่ง จุดนี้พี่ชายก็รับทราบ ว่าแม่ มอบให้ผมและ น้องชายคนเล็ก  ซึ่งที่ดินแปลงที่2  ต่างจาก แปลงแรก คือ เป็นที่นา อยู่นอกชุมชน  ให้ผมและน้องคนเล็ก แบ่ง บริเวณที่นา ไว้ ปลูกบ้าน  พี่ชายได้ฟ้้้้้องร้องของแบ่ง       คำถามคือ  หากไม่เป็นตามข้อตกลงที่เคยคุยกับพี่ชาย  ในตอนที่ ผมและน้องคนเล็ก ได้ยกกรรมสิทธิ์ ที่ดินสัดส่วน ของผม และ น้องคนเล็ก ให้พี่ชายคนโต  ในแปลงแรก    ส่วนนี้ ผมและน้อง จะเรียกร้องคืนได้หรือไม่   เนื่องจากที่ดินแปลงแรก ที่ตกลงยกให้ โดยไม่เต็มใจเท่าไหร่  เป็นที่ดินในย่าน แหล่งชุมชน

    ส่วนของผม  ผมสามารถ เรียกเงิน ในจำนวนที่ พี่ชายขายไปได้หรือไม่  และ ส่วนของน้องชายคนเล็กผม ที่ พี่ชาย ขายในภายหลัง      และ  หนี้ ที่ไฟแนนซ์ฟ้องร้อง จนเกิดการ ขายทอดตลาด  โดยมาจากการเช่า-ซื้อ รถ ของพี่ชาย  และ แม่ ได้เป็นผู้ค้ำประกัน  หากผมจะฟ้องร้อง เรียกส่วนของผม และ น้องชาย กลับคืน  หนี้ ส่วนนี้ ที่ปัจจุบัน ได้ใช้หนี้ไปหมดแล้ว   ผมและน้องชาย คนเล็ก ต้องหาร  หักล้าง หนี้ของของแม่ด้วยหรือไม่

โดยคุณ tmesan 28 พ.ย. 2563, 17:58

แสดงความเห็น