ผมมีเรื่องจะปรึกษาอาจารย์และทีมงานฯ เกี่ยวกับที่ดินและมรดกครับ

บทความวันที่ 11 มี.ค. 2563, 11:07

มีผู้อ่านทั้งหมด 1876 ครั้ง

คำแนะนำเกี่ยวกับการตั้งผู้จัดการมรดก และการตั้งผู้อนุบาล

          ผมมีเรื่องจะปรึกษาอาจารย์และทีมงานฯ เกี่ยวกับที่ดินและมรดกครับ "ปู่กับย่าผมท่านเสียไปแล้ว เหลือที่ดินอยู่แปลงหนึ่ง 8 ไร่ (โฉนดที่แปลงนี้มี 2 หรือ 3ใบอันนี้ไม่แน่ใจ) ท่านมีลูก 6 คน พ่อของผมเป็นคนโต ที่ดินแปลงนี้ยังไม่ได้แบ่งและไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ที่ผ่านมามีคนมาติดต่อขอซื้อที่ดินแปลงนี้แต่อาของผมไม่ยอมขาย คอยขัด คอยแกล้ง  ในกลุ่มญาติคุยกันว่าอาคนนี้มีพฤติกรรมจ้องฮุบสมบัติ ซึ่งผมก็ได้ยินมาแต่ไม่ได้สนใจอะไร เพราะอยู่คนละที่ด้วย  โฉนดตอนนี้อยู่ที่ธนาคาร ธกส. โฉนดใบหนึ่งใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันโดยมีชื่อของพ่อผมเป็นผู้กู้ ยอดหนี้รวมประมาณ 1,500,000 บาท  พ่อของผมท่านเคยพูดว่าเงินที่เอามานี้ท่านไม่เคยรู้ ไม่เคยได้ใช้ประโยชน์เลย หรือจะเป็นหนี้ของปู่แล้วพ่อของผมไปทำด้วยกันหรืออย่างไร อันนี้ผมไม่ทราบรายละเอียดนัก
             เมื่อปี 61 ผมได้ไปธนาคารธกส.กับพ่อ ไปเซ็นรับสภาพหนี้กับพ่อในฐานะทายาทถึงได้ทราบว่าพ่อติดหนี้กับธนาคาร และธนาคารก็ชี้แจงรายละเอียดหนี้สินว่า หนี้ต่อวัน+ดอกเบี้ยเท่าไหร่และขอให้ส่งธนาคารเดือนละ 5,000 บาท ซึ่งตอนนั้นผมส่งได้แค่เดือนเดียวเพราะส่งไม่ไหว ภาระของตนเองมีมากและพ่อก็เริ่มเป็นอัลไซเมอร์แล้ว เงินบำนาญก็ได้อยู่ 2-3 พันบาท เขาหักหนี้เยอะ..เลยขาดช่วงไม่ได้ส่งให้ธนาคารอีก
ณ ตอนนี้ มีนาคม 63 พ่อของผมล้มป่วย เป็น stroke ซีกขวาไปทั้งซีก พูดไม่ได้ เป็นผู้ป่วยติดเตียง ไปติดต่อ บ.ประกันชีวิต AIA เขาก็บอกว่าไม่ได้คุ้มครองตรงจุดนี้  วันๆได้แต่ทำงานหาเงินมาช่วยรักษาพ่อ ส่วนแม่ของผมท่านเดินไม่ค่อยสะดวกเพราะเข่าเสื่อมทั้ง 2 ข้าง(รอผ่าตัดเปลี่ยนสะบ้าหัวเข่า) ก็ไปดูแลพ่อ ไม่ได้ทำงาน ..ภาระทุกอย่างในบ้านจึงตกอยู่ที่ผมคนเดียว  ตอนนี้แม่ผมก็ได้คุยกันในกลุ่มน้องของพ่อผมว่าจะขายที่ดินในส่วนพ่อของผมที่พึงจะได้ แต่อาของผมก็ไม่ให้ขาย แกบอกว่าถ้าแบ่งออกไป ที่ดินจะเว้าแหว่ง ไม่สวย วันข้างหน้าจะได้ราคาไม่ดี
              จากเรื่องข้างต้นที่ผมเล่ามา...ในเวลาวิกฤตแบบนี้ เพื่อจะได้นำเงินมารักษาพ่อที่มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้หนี้ธนาคารที่เขาคิดดอกเบี้ยค่าปรับรายวัน  ผมขอถามว่า
              1.ในที่ดิน8ไร่แปลงนี้ที่ปู่กับย่าผมเหลือไว้ ในส่วนพ่อของผม จะแบ่งขายได้หรือไม่? ในขณะที่อาของผมคอยขัดไม่ให้แบ่งไม่ให้ขายอยู่แบบนี้
              2.พ่อของผมท่านไปแล้วครึ่งซีกและพูดไม่ได้แบบนี้ ผมสามารถทำนิติกรรม /สัญญา แทนท่านได้หรือไม่? ได้ยินเพื่อนของพ่อบอกมาว่ามีเงินบำเหน็จตกทอดที่พอจะช่วยได้ ณ ขณะนี้ แกบอกให้ผมลองไปติดต่อดู

คำแนะนำทนายคลายทุกข์
           1. ในส่วนที่ดินมรดกของปู่ย่า หากมีความประสงค์จะโอนที่ดินมาเป็นชื่อของบิดาท่าน ให้ทายาทไปยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกได้ โดยให้ยื่นขอที่ศาลจังหวัดที่ปู่/ย่าที่มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมีทะเบียนบ้านอยู่ก่อนถึงแก่ความตาย
 กรณีทายาท(ลูกของปู่ย่า)ทุกคนยินยอม สามารถติดต่อสำนักงานอัยการประจำจังหวัดของท่านเพื่อขอให้พนักงานอัยการเป็นคนยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกให้ท่านได้ แต่ถ้าหากทายาทไม่ให้ความยินยอม ให้ติดต่อทนายความเพื่อให้ยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกให้
 หลังจากได้คำสั่งศาลตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว ให้รอ 1 เดือนนับแต่ศาลมีคำสั่ง และให้ไปขอหนังสือรับรองคดีถึงที่สุดที่ศาลเดิม และนำคำสั่งศาลกับหนังสือรับรองคดีถึงที่สุดไปติดต่อเจ้าพนักงานที่ดิน เพื่อขอโอนที่ดินต่อไป
            หลังจากโอนที่ดินมาเป็นของทายาทแล้ว หากท่านประสงค์จะขายส่วนของบิดาของท่าน แต่ทายาทคนอื่นไม่ยินยอม ให้ฟ้องศาลเพื่อขอให้แบ่งกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินแปลงนั้น เพื่อดำเนินการขายต่อไป

           2.โดยปกติแล้ว บุตรไม่สามารถจัดการทรัพย์สิน หรือทำนิติกรรมแทนบิดาได้ หากท่านประสงค์จะทำนิติกรรมแทนบิดาซึ่งไม่มีความสามารถในการดูแล จัดการทรัพย์สินของตนเอง ให้ท่านไปยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้บิดาของท่านเป็นคนไร้ความสามารถ และขอให้สั่งตั้งท่านเป็นผู้อนุบาลต่อไป
           หลังจากศาลสั่งให้บิดาเป็นคนไร้ความสามารถ และตั้งท่านเป็นผู้อนุบาลแล้ว หากท่านมีความประสงค์จะขายที่ดินส่วนของบิดา หรือทำสัญญาใดๆเกี่ยวกับทรัพย์สิน ให้ไปขออนุญาตศาลก่อนทำสัญญาหรือทำการขายแต่ละครั้ง
           ในส่วนของเงินบำเหน็จตกทอดจะจ่ายเมื่อข้าราชการคนนั้นถึงแก่ความตาย ส่วนเงินพิเศษที่จ่ายหลังข้าราชการเกษียณอายุ และยังมีชีวิตอยู่ เรียกว่าบำเหน็จดำรงชีพ โดยทั่วไปจะจ่าย 2 ครั้ง  ครั้งแรกจ่ายเมื่ออายุครบ 60 ปี ครั้งที่สองจ่ายเมื่ออายุครบ 65 ปี ส่วนจำนวนเงิน และวิธีการคิดคำนวณการจ่ายเงินบำเหน็จตกทอดให้สอบถามที่หน่วยงานต้นสังกัดต่อไป