สั่งย้าย 5 ตร. กรรโชกทรัพย์ ขูด 3 แสน แค่ไม่พกบัตรชมพู
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2563 เจ้าของร้านอาหารใน อำเภอสันทราย และหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งถือบัตรสีชมพูเป็นบัตรประจำตัวคนที่ไม่มีสัญชาติไทย พร้อมบุตรชายอายุ 1 ปี 11 เดือน พ่อแม่ลูกได้เข้ายื่นหนังสื่อร้องเรียนกับ พ.ต.อ.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ รองผบก.สส.ภ.5 โดยได้นำหลักฐานเป็นสลิปโอนเงิน และการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารหลายครั้งรวม 3 แสนบาท รวมถึงคลิปกลุ่มตำรวจที่มีเสียงการพูดคุยตอบโต้
พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทั้ง 3 คนไปงานแต่งที่จังหวัดเชียงใหม่ ขากลับเจอตำรวจตั้งด่านเพื่อขอตรวจค้นและตรวจปัสสาวะ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือสารเสพติด แต่ตนไม่ได้พกใบสีชมพูมาด้วย ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่อาย 5 นาย เชิญตัวไปเจรจาในป่าบนดอย ตำรวจจึงขอเงิน 5 แสนเพื่อจบคดี แต่พวกตนไม่มีเงินจึงต่อรองเหลือ 3 แสนบาท พอพวกตนกลับมาบ้านได้ปรึกษากับคนรู้จักก็ถึงรู้ว่าไม่ผิดอะไรมากแค่ลืมพกบัตร อย่างมากก็ถูกปรับ คาดว่าถูกกรรโชกทรัพย์แน่นอนจึงเข้าร้องเรียน
ที่มา : www.dailynews.co.th
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 148 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
มาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ