งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
20รายแจ้งความจับทหารหลอกเข้ารับราชการทัพบก
เหยื่อกว่า 20 ราย เข้าแจ้งความถูก
"ส.อ." กองทัพบก หลอกเข้ารับราชการทหารเสียเงินหัวละ 3-5 แสนบาท บางรายเป็นถึงลูกนายทหาร เผยมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท เชื่อมีผู้เสียหายทั่วประเทศ เตรียมส่งเรื่องให้ผู้เกี่ยวข้องสอบต่อ
ต้นสังกัดแจง "ส.อ.ชาญชัย” หนีราชการทหารนานกว่า 20 วันแล้ว ยันไม่ปกป้องกำลังพลที่ทำผิดกฎหมาย
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีนี้ โดยทีมทนายความรายการทนายคลายทุกข์ คือ
ประมวลกฎหมายอาญา 341,มาตรา 343
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต
หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ
หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง
และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม
หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 343 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา341
ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน
หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี
หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรก
ต้องด้วยลักษณะดังกล่าวในมาตรา 342 อนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใดด้วย
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี
และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
รายละเอียดรายงานข่าว
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม
นายคิด (นามสมมติ) อายุ 25 ปี พร้อมกับกลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 คน เข้าพบ พ.ต.อ.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ รอง ผบก.ปปป.
เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ส.อ.
นายคิดกล่าวว่า
เมื่อประมาณปี 2550 เพื่อนแนะนำให้รู้จักกับ ส.อ.ชาญชัย
เพื่อขอความช่วยเหลือในการเข้ารับราชการทหารเพราะช่วงนั้นกำลังตกงาน โดย
ส.อ.ชาญชัยอ้างว่า ช่วงเดือนสิงหาคม 2550
กองทัพบกจะพิจารณาเปิดรับบุคคลเข้ารับราชการชั้นสัญญาบัตรเป็นการภายใน
แต่ก็สามารถดำเนินการให้ได้ ต่อมา ส.อ.ชาญชัย ได้นัดพบตนและบอกว่า
หากจะเข้าเป็นทหารต้องเสียเงินค่าดำเนินการเป็นจำนวน 5
แสนบาท รวมทั้งต้องเตรียมตัวเข้ารับการตรวจเลือดและโรคประจำตัว ที่สโมสรทหารบก
ย่านเทเวศร์ ตนจึงรีบหาเงินมาให้จนครบ
"เมื่อถึงวันนัดก็เดินทางไปยังสโมสรทหารบก พบว่า
มีนายทหารมาตั้งโต๊ะให้บริการ ซึ่งในวันนั้นมีผู้มารับการตรวจเช่นเดียวกับผมกว่า 300 คน จึงไม่รู้สึกเอะใจว่าจะถูกหลอกลวง
เนื่องจากมีการใช้สถานที่ของสโมสรทหารบก หลังจากผ่านขั้นตอนต่างๆ แล้ว
ส.อ.ชาญชัยบอกกับผมว่าให้รอผลอีกระยะหนึ่งแล้วจะติดต่อกลับ
แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อได้พบผู้เสียหายรายอื่นๆที่ติดต่อผ่าน
ส.อ.ชาญชัย ก็พบว่ามีปัญหาเหมือนกัน จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง" นายคิดกล่าว
นายคิดกล่าวว่า
นอกจากนี้ยังพบกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมาก บางรายเป็นลูกหลานทหารถูกหลอก
โดยแอบอ้างนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกองทัพบกว่า
สามารถช่วยเหลือให้เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรได้จนต้องเสียเงินไปหลายแสนบาทจึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดี
ด้าน พ.ต.อ.เสริมคิด กล่าวว่า
พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว
โดยจะได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งกรณีนี้อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
เพราะมีการหลอกลวงผู้เสียหายหลายร้อยรายจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท แต่จะเข้าข่ายความผิดในข้อหาอื่นๆ อีกหรือไม่นั้น
ต้องขอเวลารวบรวมหลักฐานต่างๆ อีกระยะหนึ่ง ส่วนจะมีผู้กระทำความผิดร่วมกับ
ส.อ.ชาญชัย ด้วยหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้ หากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าเป็นการกระทำผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชนจะต้องส่งเรื่องให้ตำรวจหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
เพราะในส่วนของ ปปป.รับผิดชอบคดีที่ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเป็นหลัก
รายงานข่าวจากกรมการรักษาดินแดนเปิดเผยว่า
พล.ท.
แหล่งข่าวกรมการรักษาดินแดนเปิดเผยว่า
ตำรวจยังไม่ได้มีการประสานมายังกรมการรักษาดินแดน
แต่เมื่อทางกรมการรักษาดินแดนทราบข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมของ ส.อ.ชาญชัย ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
ได้ตรวจสอบหาข้อมูลถึงที่มาที่ไปว่า ส.อ.ชาญชัย มีพฤติกรรมดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้
ส.อ.ชาญชัย เป็นทหารสั่งการกองพยาบาล รพ.พระมงกุฎเกล้า
แต่มาช่วยราชการที่ศูนย์การกำลังรองของกองทัพบก อย่างไรก็ตาม
หน่วยต้นสังกัดไม่มีการปกป้องกำลังพลที่กระทำผิดกฎหมายอยู่แล้ว
ขอขอบคุณ
รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก