ยุทธการปราบ
"เมียน้อย"/ Life and Family
หลังจากคอลัมภ์คุยกับนักสืบ
นำบทความเรื่อง “ว่าด้วยเรื่องเมียน้อย” นำเสนอไปแล้ว
บางท่านอาจจะทราบบทสรุปว่าสุดท้ายเรื่องดังกล่าวจะจบอย่างไร ทีมงานทนายความและนักสืบ รายการทนายคลายทุกข์ จึงนำบทสรุปที่เป็น ยุทธการ “ปราบเมียน้อย” จากเหตุการณ์มรสุมในครอบครัวของคุณพรรณพิมล
(จากเรื่อง "ว่าด้วยเรื่องเมียน้อย")
คาดว่าหลายคนคงเสียวสันหลังอยู่ไม่น้อย
โดยเฉพาะครอบครัวที่มีสาวใช้วัยกระเตาะอยู่ที่บ้านหรือสามีที่มีเพื่อนสาวรายล้อมอยู่เว้นแต่ละวัน
ดังนั้นเราลองมาดูวิธีป้องกันหรือสร้างภูมิคุ้มกันให้ครอบครัวกันดีกว่าว่า
ก่อนที่แก้วจะร้าว ครอบครัวจะแตกเป็นเสี่ยงๆเพราะคนอื่นนั้น
หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ศรีภรรยา”นั้นควรทำอย่างไรกันบ้าง
1. “สำรวจตัวเอง” เห็นได้ว่า
จากเหตุการณ์ตัวอย่างของครอบครัวที่กล่าวมาข้างต้นนั้น
ช่องว่างของความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สามีปันใจ
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราสามารถทำได้นั่นก็คือ
เราต้องเข้าใจบทบาทของตัวเองในการแม่ที่ดีของลูกและเป็นภรรยาที่ดีของสามี
อย่ามัวแต่จ้องจับผิดจนไม่ทำการทำงาน เพราะการไม่ไว้วางใจกันนานๆเข้าจะกลายเป็นการไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ภรรยาควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด งานบ้านไม่ให้ขาด
งานดูแลหัวใจเติมความรักให้ครอบครัวก็ไม่ควรเว้นแม้แต่ชั่ววัน
ซึ่งหน้าที่ของภรรยา(ที่ควรจะมี) นั่นคือ ดูแลเรื่องในบ้านให้ดีที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าของสามี เสื้อผ้าของลูก อาหารการกิน
รวมไปถึงสิ่งเล็กๆน้อยที่จะทำให้บ้านน่าอยู่ยิ่งขึ้น
2.
"สวยสดอยู่เสมอ"
แม้ว่าคนที่เป็นภรรยาควรดูแลลูกและสามีก็ตาม แต่อย่าลืมดูแลตัวเองเป็นอันขาด
หน้าตา รูปร่าง และบุคลิกของคุณผู้หญิงควรดูดีอยู่เสมอ
ดั่งสำนวนที่ว่าไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง
แม้จะไม่ต้องทำให้เป็นคนสวย เซ็กส์ เอ็กซ์ อึ๋ม
แต่หากสามีกลับมาจากที่ทำงานเหนื่อยแล้วมาเจอคนที่บ้านในสภาพ หน้าตาบึ้งตึง
หน้ามัน หัวฟู ฯลฯ สามีคนไหนก็หนีไปแน่นอน
3. “ให้ความสำคัญ” การที่คนเก่งกับคนกล้าอยู่ด้วยกันนั้น
หลายคนอาจเข้าใจว่าคู่นี้ดูสมบูรณ์แบบ แต่ทว่าในความเป็นจริง
ผู้หญิงต้องอย่าลืมไปว่า ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบผู้หญิงที่เก่งกว่าตน
แม้ว่าสมัยนี้สิทธิสตรีจะมีบทบาทมากกว่าเมื่อก่อน แต่หากว่าด้วยเรื่องชีวิตคู่แล้ว
คำว่า “สิทธิสตรี” อาจใช้ไม่ได้ในบางกรณี
เมื่อผู้ชายส่วนใหญ่ยังคงอยากเป็นผู้นำครอบครัว เป็นช้างเท้าหน้าให้ภรรยาเดินตาม
ดังนั้นการที่ผู้หญิงเก่ง กล้ามากความสามารถอาจทำให้ศักยภาพของคุณสามีถูกลดทอนลงไป
ดังนั้นผู้หญิงคนไหนที่เก่งไปเสียทุกอย่าง
ลองลดดีกรีความสามารถลงเพื่อต่ออายุความรักดูบ้างโดยการ ‘เอ่ยปาก’
ขอความช่วยเหลือเรื่องที่ผู้ชายต้องทำเช่น เปลี่ยนหลอดไฟ ก๊อกน้ำ
ฯลฯ เพื่อให้เขาเขารับรู้ว่าเขามีความสำคัญกับครอบครัว
และเป็นคนที่เราไว้วางใจที่สุด
4. “รักเรา ไม่เก่าเลย” ยังจำได้ไหมว่าคุณบอกรักกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กัน?
แน่นอนว่า เมื่อเจอคำถามแบบนี้ บางคนอาจตอบว่า ‘วันแต่งงาน’ ซึ่งมันนานไปไหม?
คุณผู้หญิงทั้งหลายอย่าลืมเด็ดขาดว่า แม้จะอยู่ด้วยกัน นอนเตียงเดียวกัน
แต่ไม่เคยบอกรักกันนานมาแล้ว มันก็ทำให้ความรักมันดูจืดจางได้เช่นกัน
ดังนั้นการที่ได้บอกรักกัน แม้จะเป็นเพียงคำพูด
แต่เชื่อเถอะว่าฝ่ายชายทีกำลังจะไปมีเล็กมีน้อย ต้องฉุกคิด
เรียกสติกลับคืนมาได้แน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น การกอดกัน สัมผัสกันก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเพราะการกอดตอกย้ำความรัก
ความผูกพันได้เป็นอย่างดี
5. “เรื่องบนเตียง” ผู้ชายหลายคนที่ตัดสินใจเมียน้อยส่วนใหญ่
ยอมรับว่า สาเหตุหนึ่งมาจากการที่คนสองคนไม่มีเวลาให้กัน
เมื่อห่างเหินมากขึ้นทุกวันๆ เรื่องบนเตียงก็ลดน้อยลง หรือแทบจะไม่มีอีกเลย
ซึ่งเรื่องนี้ คนที่แต่งงานย่อมเข้าใจดีว่า
การมีเพศสัมพันธ์กันนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์
ดังนั้นการที่สามี-ภรรยาไม่ได้มีภารกิจความรักกันนานๆ
มันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากปัญหานี้จะเป็นสาเหตุให้สามีคุณไปนอนบ้านอื่น
ฉะนั้นถ้าไม่อยากให้เขาไปนอนกับคนอื่นที่ไม่ใช่คุณ ภรรยาทั้งหลายควรจัดการเวลางาน
และเวลาครอบครัวให้ลงตัว อย่ามัวแต่หมกมุ่นกับเรื่องงาน
หรือเรื่องส่วนตัวจนหลงลืมคนที่บ้านเด็กขาด
6. “เน้นวาทะ ลดปะทะ” ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้น
แต่ทุกคนที่รักกันควรท่องให้ขึ้นใจเลยว่า ‘คนรักกัน
จะไม่พูดจาทำร้ายกันเด็ดขาด’ เพราะการที่พูดจาประชดประชัน
หยาบคาย หรือทำร้ายจิตใจกัน เปรียบเสมือนการสาดโคลนใส่กัน
ทำลงไปก็เจ็บกันทั้งสองฝ่าย
ทั้งนี้
เรื่องง่ายๆที่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายอาจหลงลืมไปบ้างนั่นคือ
เมื่อคนที่เรารักทำผิดพลาดไป หรือมีเรื่องให้ต้องกระทบจิตใจ คำว่า “ขอบคุณและขอโทษ”
ยังคงใช้ได้สมอ และอีกสิ่งหนึ่งคืออย่าลืมที่จะให้ “อภัย” กันและกันด้วย
อย่างไรก็ดี“กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี...”
ศีลข้อสามที่ดูเหมือนจะรักษาง่ายสุด (โดยเฉพาะคนที่ยังไม่มีความรัก)
กลับเป็นศีลที่พบว่า หลายคนทำผิดบ่อยครั้งพอๆกับการโกหกและฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
ดังนั้น...ก่อนที่สามีจะผิดศีล ก่อนที่คุณผู้หญิงจะทุกข์ใจ
ก่อนที่ครอบครัวจะแตกแยก...วันนี้คุณบอกรักแล้วหรือยัง??
เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับบทความเกี่ยวกับยุทธการปราบเมียน้อย จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการออนไลน์ ท่านผู้อ่านคงนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
ถ้าท่านอาจแล้วยังไม่สามารถหาทางออกได้
ก็สามารถขอคำแนะนำจากทีมงานทนายความและนักสืบ รายการทนายคลายทุกข์ ได้ที่ 02-9485700 นะคะ
ขอขอบคุณบทความจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ