ซื้อของไม่ได้ของ แต่บัตรเครดิตบอกต้องชำระเงิน
เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ผมซื้อของเป็นชุดเครื่องเสียงกับบริษัท ดิจิตอลเบสบาย โดยผ่อนผ่าน บัตรซิตี้แบงค์ 2299 เป็นเวลา 10 เดือนผ่านไป 10 วัน ผมไม่ได้รับของ จึงแจ้งยกเลิกกับทางบัตรเครดิต กับบริษัทที่ซื้อของ ซึ่งบริษัทดิจิตอล บอกใช้เวลาประมาณ 3 วัน เขาจึงจะแจ้งเรื่องต่อซิตี้แบงค์ จึงจะยกเลิกได้ เมื่อสอบถามกับทางซิตี้แบงค์ ก็แจ้งว่าทางเขาไม่รับรู้ด้วย ยังไงให้จ่ายเงินค่างวดมาก่อน ถ้าทางบริษัทดิจิตอลเบสบาย ทำเรื่องคืนมา ทางแบงค์จึงจะค่อยคืนเงินผม
ต่อมาอีก 3 วัน มีใบเรียกเก็บมาผมก็ไม่จ่ายในส่วนของค่างวด (จ่ายแต่รายการอื่น ๆ) ต่อมางวดบิลวันที่ 15 สิงหาคม ทางซิตี้แบงค์ คิดดอกเบี้ยกับทางผม หาว่าผิดนัดชำระหนี้ เป็นเงิน 1174 บาท เขาแจ้งว่า เขายังไม่ได้รับแจ้งยกเลิก จากดิจิตอล เบสบาย ยังไง เราก็ต้องเสียดอก
ผมโทรไปถามทาง ดิจิตอลเบสบาย ก็บอกว่ากำลังเร่งดำเนินเรื่องอยู่ ผู้จัดการไม่เซ็นพนักงาน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ของไม่ได้ใช้ แจ้งยกเลิกก่อนงวดบัญชี แต่ซิตี้แบงค์จะมาคิดดอกเบี้ยค่าปรับ แบบนี้ ผมต้องทำอย่างไรครับ ขอคำปรึกษาด้วยครับ
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
ต้องดูข้อตกลงและเงื่อนไขการซื้อขายก่อนว่า ตกลงจะส่งมอบทรัพย์สิน คือ เครื่องเสียงให้แก่คุณภายในกี่วัน หากระยะเวลาเกินกว่าที่ตกลงกัน ถือว่าบริษัทฯ ผิดสัญญาซื้อขาย คุณมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 386 วรรคแรก และมาตรา 387
ดังนั้น หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่คุณเล่ามา คุณต้องทำเป็นหนังสือถึงบริษัทฯ ว่าคุณได้ซื้อขายเครื่องเสียงในราคาเท่าใด มีเงื่อนไขอย่างไร ผิดสัญญาอะไร ให้ส่งมอบเครื่องเสียงแล้วแต่ไม่สามารถส่งมอบได้ ติดต่อขอเลิกสัญญากับใคร สุดท้ายเราไม่ประสงค์ที่จะซื้อสินค้ากับบริษัทแล้ว ขอบอกเลิกสัญญาและให้ทางบริษัทดำเนินการคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย ภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือและคุณต้องปฏิเสธการชำระหนี้ตามใบแจ้งหนี้ด้วย ซึ่งหนังสือดังกล่าวทำเป็นจดหมายและส่งเป็นไปรษณีย์ตอบรับไปที่บริษัท ซิตี้แบงก์ และบริษัท ดิจิตอลเบสบาย ทั้ง 2 บริษัท ทั้งนี้หากท่านไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง คุณควรเข้ามาที่ทนายคลายทุกข์เพื่อช่วยให้ร่างหนังสือให้
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 386 ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเลิกสัญญาโดยข้อสัญญาหรือโดบทบัญญัติแห่งกฎหมาย การเลิกสัญญาเช่นนั้นย่อมทำด้วยแสดงเจตนาแก่อีกฝ่ายหนึ่ง
แสดงเจตนาดังกล่าวมาในวรรคก่อนนั้น ท่านว่าหาอาจจะถอนได้ไม่
มาตรา 387 ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งไม่ชำระหนี้ อีกฝ่ายหนึ่งจะกำหนดระยะเวลาพอสมควร แล้วบอกกล่าวให้ฝ่ายนั้นชำระหนี้ภายในระยะเวลานั้นก็ได้ ถ้าและฝ่ายนั้นไม่ชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนดให้ไซร้ อีกฝ่ายหนึ่งจะเลิกสัญญาเสียก็ได้