รบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ไม่มีความผิดฐานบุกรุก
ลองอ่านฎีกาใหม่และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เอาไปใช้ประโยชน์ได้นะครับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4725/2564
โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับวันเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิด รวมทั้งลักษณะในการกระทำผิดเช่นเดียวกับในคดีก่อนทุกประการแตกต่างกันเพียงจำนวนแผ่นสังกะสีและเจ้าของสังกะสีเท่านั้น ซึ่งการกระทำของจำเลยที่ 1 คดีนี้กับคดีก่อน เห็นได้ชัดว่ามุ่งหมายมาเอาสังกะสีที่กองรวมกันทั้งหมดขึ้นรถบรรทุกไปพร้อมในกันคราวเดียวโดยไม่ได้สนใจแยกแยะว่าสังกะสีเหล่านั้นจะเป็นเจ้าของต่างรายกันหรือไม่ถือได้ว่าเป็นการลักทรัพย์เพียงกรรมเดียวเมื่อคดีก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดให้ลงโทษจำเลยที่ 1 แล้ว สิทธิในการนำคดีมาฟ้องในคดีนี้ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียวกันกับคดีก่อนเป็นอันระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4) เพราะเป็นฟ้องซ้ำ
ที่ดินที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านอยู่ในเขตพื้นที่เตรียมการสงวนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของกรมป่าไม้อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน การเข้ายึดถือครอบครองย่อมไม่ได้สิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งไม่อาจอ้างสิทธิใดๆ ใช้ยันรัฐได้ คงได้แต่ยกการยึดถือครอบครองก่อนยันราษฎรด้วยกันเอง ที่เข้ามารบกวนการยึดถือครอบครองและจะทวงกันผู้อื่นได้ก็แต่ขณะที่ตนยังยึดถือครอบครองอยู่เท่านั้น แต่สภาพบ้านของผู้เสียหายมีเพียงผนังและกรอบประตูหน้าต่าง ไม่มีหลังคา ลักษณะรกเรื้อมีวัชพืชขึ้นปกคลุม แสดงว่าไม่มีผู้ใดครอบครองมาเป็นเวลานานแล้ว การที่จำเลยทั้งสองเข้าไปปักเสาปูนขึงลวดหนาม ปิดล้อมบริเวณหน้าบ้านและหลังบ้าน ไม่อาจถือได้ว่าเป็นการเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยทั้งสองไม่เป็นความผิดฐานร่วมกันบุกรุกตามฟ้อง
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470, 081-6252161
#ทนายคลายทุกข์ #รบกวนการครอบครอง #บุกรุก #ลักทรัพย์