เบิกความเท็จเกี่ยวกับลายมือปลอมต้องเป็นข้อสำคัญในคดีจึงจะมีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3504/2531
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากตึกแถวที่เช่าเนื่องจากครบกำหนดอายุสัญญาเช่าแล้ว เมื่อจำเลยให้การรับว่าได้ทำสัญญาเช่ากับโจทก์จริงแม้จำเลยจะเบิกความว่าลายมือชื่อผู้เช่าในสัญญาเช่าที่โจทก์นำมาฟ้องไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยและสัญญาเช่าปลอม ก็ไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใดเพราะสัญญาเช่าจะปลอมหรือไม่จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะอยู่อาศัยในตึกแถวที่เช่าอีกต่อไป ข้อความที่จำเลยเบิกความต่อศาลดังกล่าวจึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี แม้จะเป็นความเท็จจำเลยก็ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 985/2525
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าห้องตามสัญญาเช่า จำเลยรับว่าได้เช่าห้องกับโจทก์แล้ว แต่ยกข้อต่อสู้ขึ้นใหม่ว่าเป็นสัญญาเช่าต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา ดังนั้น ปัญหาว่าสัญญาเช่าจะลงชื่อโจทก์หรือไม่ ไม่ทำให้คำวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงเพราะคู่ความรับกันเสียแล้วว่ามีการทำสัญญาเช่ากันแล้ว การที่จำเลยมาเบิกความว่าลายมือชื่อในสัญญาเช่าไม่ใช่ลายมือชื่อโจทก์ ย่อมไม่ใช่ข้อความสำคัญในคดีเพราะคู่ความรับกันแล้ว จึงไม่เป็นประเด็นไม่มีผลทำให้เกิดแพ้ชนะกันในคดี