งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
หลอกลวงชักชวนร่วมลงทุนผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
#ฉ้อโกงประชาชน #ร่วมลงทุน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1093/2568
การที่โจทก์ทั้งสองโอนเงินให้แก่จำเลยทั้งสอง จึงเป็นการเชื่อจากกลอุบายการหลอกลวงของจำเลยทั้งสองมาตั้งแต่ต้น โดยใช้ผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราสูงเป็นเครื่องล่อใจเป็นวิธีการหลอกลวงอย่างหนึ่งและจำเลยทั้งสองยังปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งว่าจำเลยทั้งสองไม่ได้นำเงินลงทุนไปประกอบกิจการใดๆ จะได้รับผบตอบแทนเพียงพอที่จะให้ผู้ฝากออมได้ประโยชน์ โจทก์ที่ 1 ไม่ทราบว่าจำเลยที่ 1 จะนำเงินไปปล่อยกู้ในบ่อนหรือให้กับนายวงแชร์หรือประกอบธุรกิจใดที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น เมื่อโจทก์ทั้งสองไม่ได้มีส่วนในการกระทำความผิด หรือไม่เป็นผู้ใช้หรือผู้สนับสนุนหรือรู้เห็นในการกระทำความผิดหรือการกระทำที่มีวัตถุประสงค์ที่ผิดต่อกฎหมายของจำเลยทั้งสอง โจทก์ทั้งสองจึงเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย จึงมีอำนาจฟ้อง
ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนนั้นความผิดสำเร็จอยู่ที่ผู้เสียหายแต่ละคนหลงเชื่อและแต่ละคนโอนเงินให้แก่จำเลยทั้งสอง การที่จำเลยทั้งสองโพสต์ลงในกลุ่มแอปพลิเคชั่นไลน์แต่เมื่อข้อความที่โพสต์ยังคงอยู่ต่อเนื่องตลอดตามวัน เวลาที่อยู่ในฟ้อง และเสนอให้มีการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่โจทก์ทั้งสองมาเป็นการยืนยันให้ร่วมลงทุนในครั้งต่อไปและโจทก์ทั้งสองโอนเงินให้จำเลยตามวันเดือนปีที่โจทก์ทั้งสองเชื่อซึ่งเกิดจากกลอุบายหรือวิธีหลอกลวงจำเลยทั้งสองแต่ละครั้ง ความผิดสำเร็จจึงเกิดขึ้นตามการโอนเงินที่โจทก์ทั้งสองหลงเชื่อและโอนให้แก่จำเลยทั้งสองสำหรับการหลอกลวงในแต่ละครั้งสำหรับโจทก์แต่ละคน เมื่อได้ความว่า จำเลยทั้งสองหลอกลวงโจทก์ที่ 1 ให้โอนเงินให้จำเลยทั้งสอง 5 ครั้ง โจทก์ที่ 1 โอนเงินให้แก่จำเลยทั้งสอง 5 ครั้ง จึงเป็นความผิด 5 กรรมต่างกัน และการที่โจทก์ที่ 2 โอนเงินเข้าบัญชีของจำเลยทั้งสองตามคำหลอกลวงของจำเลยทั้งสอง โดยจำเลยทั้งสองหลอกลวงโจทก์ที่ 2 จำนวน 3 ครั้ง แม้จะโอนเงินให้จำเลยทั้งสองสำหรับการหลอกลวงครั้งแรกรวม 2 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นความผิดกรรมเดียว แต่โจทก์ที่ 2 ยังโอนเงินให้จำเลยทั้งสองอีกตามที่หลอกลวงอีก จึงเป็นความผิดอีก 2 กรรม แยกต่างหากจากกัน ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองรวม 8 กรรม ตามฟ้องชอบแล้ว
ปรึกษาข้อกฎหมายสอบถาม 02-948-5700 หรือ 081-616-1425 หรือ 081-625-2161, 081-821-7470