ตัวอย่างคดีไม่ถือเป็นการโกงเจ้าหนี้|ตัวอย่างคดีไม่ถือเป็นการโกงเจ้าหนี้

ตัวอย่างคดีไม่ถือเป็นการโกงเจ้าหนี้

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ตัวอย่างคดีไม่ถือเป็นการโกงเจ้าหนี้

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2562

บทความวันที่ 17 ธ.ค. 2563, 11:40

มีผู้อ่านทั้งหมด 1050 ครั้ง


ตัวอย่างคดีไม่ถือเป็นการโกงเจ้าหนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2562
           ในวันที่จำเลยที่ 1 โอนที่ดินพร้อมทาวน์เฮ้าส์สองชั้นให้แก่จำเลยที่ 2 โดยเสน่หา เจ้าพนักงานบังคับคดีมีเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 เพียงพอต่อการชำระค่าเสียหายพร้อมค่าธรรมเนียมต่างๆ ทั้งหมดแก่โจทก์อยู่ก่อนแล้ว การกระทำของจำเลยทั้งสองยังถือไม่ได้ว่ามีเจตนาที่จะไม่ให้โจทก์ได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน จำเลยทั้งสองไม่มีความผิดฐานร่วมกันโกงเจ้าหนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6188/2562
              หนี้ที่โจทก์อ้างเป็นมูลเหตุฟ้องจำเลยที่ 1 ใน ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ คือหนี้ที่โจทก์จดทะเบียนโอนขายที่ดินให้แก่จำเลยที่ 2 โดยจำเลยทั้งสองมีเจตนาเพื่อมิให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวกลับคืนมาเป็นของโจทก์ เมื่อความปรากฎต่อศาลฎีกาว่าคดีดังกล่าวศาลฎีการับฟังว่าโจทก์จดทะเบียนให้จำเลยที่ 1 ถือกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพิพาทกึ่งหนึ่งและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทอีกกึ่งหนึ่งให้แก่จำเลยที่ 1 ด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่เพราะถูกจำเลยที่ 1 ใช้กลฉ้อฉลโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิเพิกถอนนิติกรรมดังกล่าวและพิพากษายกฟ้องโจทก์ยืนตามศาลอุทธรณ์ภาค 7 ผลของคำพิพากษาศาลฎีกาทำให้โจทก์กับจำเลยที่ 1มิได้เป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้ต่อกัน โจทก์ไม่อยู่ในฐานะเจ้าหนี้ซึ่งเป็นองค์ประกอบความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 การกระทำของจำเลยที่ 1 ที่โอนที่ดินให้แก่จำเลยที่ 2 ขาดองค์ประกอบความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดตามฟ้อง

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก