คืนรถ ในขณะที่ไม่ได้ผิดสัญญา ไม่ต้องรับผิดค่าขาดราคาและค่าขาดประโยชน์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2538/2562
สัญญาเช่าซื้อข้อ 10 กำหนดไว้ว่า ผู้เช่าจะบอกเลิกสัญญาในเวลาใดก็ได้ โดยการส่งมอบรถยนต์ที่เช่ากลับคืนให้แก่เจ้าของ ณ ภูมิลำเนา ปัจจุบันของเจ้าของในสภาพเรียบร้อยและใช้การได้ดี และผู้เช่าตกลงที่จะชำระบรรดาหนี้ที่มีอยู่ก่อนวันบอกเลิกสัญญาแก่เจ้าของจนครบถ้วน ...แสดงว่าการบอกเลิกสัญญาตามข้อตกลงนี้จะนำมาใช้บังคับก็ต่อเมื่อเป็นกรณีที่ผู้เช่าซื้อมีหนี้หรือมีการผิดนัดก่อนการเลิกสัญญาเท่านั้น ไม่ใช่กรณีที่เป็นการบอกเลิกสัญญาโดยไม่มีหนี้้ค้างชำระตาม ป.พ.พ.มาตรา 573 ซึ่งมีกฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะอยู่แล้ว ประกอบกับการที่โจทก์ผู้ให้เช่าซื้อ เป็นผู้กำหนดเงื่อนไขต่างๆ ไว้ในสัญญาเช่าซื้อ ดังนั้นเงื่อนไขที่จะมีผลทำให้ผู้เช่าซื้อต้องรับผิดจึงต้องตีความโดยเคร่งครัดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เช่าซื้อ และหากมีข้อสงสัยต้องตีความให้เป็นประโยชน์แก่ผู้เช่าซื้อ โจทก์จึงไม่อาจอ้างเอาข้อตกลงเรื่องความรับผิดในเรื่องขายทอดตลาดได้ในราคาที่น้อยกว่ามูลหนี้ส่วนที่ขาดอยู่ตามสัญญาเช่าซื้อมาใช้บังคับเอากับจำเลยที่ 1 เพระาเหตุที่ผู้เช่าซื้อคืนรถได้ ดังนั้นเมื่อสัญญาเลิกกันโดยจำเลยที่ 1 มิได้ประพฤติผิดสัญญาและไม่มีหนี้ที่ต้องรับผิดต่อโจทก์จึงไม่อาจนำ ป.พ.พ.มาตรา 391 วรรคสี่ ที่ใช้ในกรณีที่มีความเสียหายจากการผิดสัญญาหรือการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อโดยชอบมาใช้บังคับได้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดราคาและค่าขาดประโยชน์
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 391 เมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม แต่ทั้งนี้จะให้เป็นที่เสื่อมเสียแก่สิทธิของบุคคลภายนอกหาได้ไม่
ส่วนเงินอันจะต้องใช้คืนในกรณีดังกล่าวมาในวรรคต้นนั้น ท่านให้บวกดอกเบี้ยเข้าด้วย คิดตั้งแต่เวลาที่ได้รับไว้
ส่วนที่เป็นการงานอันได้กระทำให้และเป็นการยอมให้ใช้ทรัพย์นั้น การที่จะชดใช้คืน ท่านให้ทำได้ด้วยใช้เงินตามควรค่าแห่งการนั้น ๆ หรือถ้าในสัญญามีกำหนดว่าให้ใช้เงินตอบแทน ก็ให้ใช้ตามนั้น
การใช้สิทธิเลิกสัญญานั้นหากระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายไม่
มาตรา 573 ผู้เช่าจะบอกเลิกสัญญาในเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ด้วยส่งมอบทรัพย์สินกลับคืนให้แก่เจ้าของโดยเสียค่าใช้จ่ายของตนเอง