คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์มีผลทันที ลูกหนี้หมดอำนาจจัดการทรัพย์ของตัวเอง
ศาลมีคำสั่งให้พิทักษ์จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงหมดอำนาจที่จะจัดการหรือกระทำการใดๆเกี่ยวกับทรัพย์สินของตน การที่จำเลยที่ 1 ไปจดทะเบียนจำนองที่ดินให้แก่ผู้คัดค้าน เป็นการกระทำดังกล่าวเป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10656/2559
ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาดเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2536 ย่อมมีผลทันที หาใช่มีผลนับแต่คดีถึงที่สุดไม่ จำเลยที่ 1จึงหมดอำนาจที่จะจัดการหรือกระทำการใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของตนและตกแก่ผู้ร้องในฐานะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จำเลยที่ 1 ไม่มีอำนาจจดทะเบียนจำนองที่ดินแก่ผู้คัดค้าน การจดทะเบียนจำนองเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 22 และ มาตรา 24 ตกเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 150
ผู้คัดค้านรับจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 1 ไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนในเวลาที่ยังไม่ประกาศคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาดในราชกิจจานุเบกษา และไม่ทราบว่าจำเลยที่ 1 ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามราชกิจจานุเบกษาก็ตาม ผู้คัดค้านไม่อาจยกความสุจริตขึ้นอ้าง เพื่อมีผลเป็นการลบล้างบทกฎหมายได้
ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 150 การใดมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายเป็นการพ้นวิสัยหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน การนั้นเป็นโมฆะ
พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483
มาตรา 22 เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอำนาจดังต่อไปนี้
(1) จัดการและจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือกระทำการที่จำเป็นเพื่อให้กิจการของลูกหนี้ที่ค้างอยู่เสร็จสิ้นไป
(2) เก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สินซึ่งจะตกได้แก่ลูกหนี้ หรือซึ่งลูกหนี้มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น
(3) ประนีประนอมยอมความ หรือฟ้องร้อง หรือต่อสู้คดีใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้
มาตรา 24 เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว ห้ามมิให้ลูกหนี้กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน หรือกิจการของตน เว้นแต่จะได้กระทำตามคำสั่งหรือความเห็นชอบของศาล เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้จัดการทรัพย์ หรือที่ประชุมเจ้าหนี้ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้