คดีก่อนศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์ให้ยกย้อนสำนวนไปพิจารณาใหม่ ถือว่าสิทธินำคดีอาญามาฟ้องผู้ต้องหายังไม่ระงับไป
คดีก่อน ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีนี้ ในการกระทำความผิดครั้งเดียวกับคดีนี้ แต่เมื่อถึงวันสืบพยานโจทก์ โจทก์ขอเลื่อนคดีแต่ศาลไม่อนุญาต และพิพากษายกฟ้อง โจทก์ในคดีก่อนอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี จำเลยฎีกา ศาลฎีกาไม่รับคดีไว้วินิจฉัย ถือว่าคำพิพากษายกฟ้องของศาลชั้นต้นถูกยกเลิกเพิกถอนไปแล้ว ถือไม่ได้ว่าศาลมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้อง สิทธินำคดีอาญาของโจทก์ยังไม่ระงับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5391/2562
ในคดีก่อน ผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเป็นจำเลยที่ 2 ในการกระทำอันเดียวกันกับคดีนี้ ศาลชั้นต้นในคดีดังกล่าวไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดี แล้วมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์และพิพากษายกฟ้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำพิพากษายกคำพิพากษาและคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและให้งดสืบพยานโจทก์ ให้ย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี และต่อมาศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับคดีไว้พิจารณาพิพากษาตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 23 วรรคหนึ่ง ดังนี้ คำพิพากษายกฟ้องในคดีก่อนจึงเป็นอันถูกยกเลิกเพิกถอนไป ไม่อาจถือได้ว่าศาลได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่ได้ฟ้องแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (4)