ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมและเรียกค่าเสียหายมาด้วย เป็นคดีมีทุนทรัพย์.
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเพิกถอนนิติกรรมสัญญาซื้อขายที่ดิน เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ แต่เมื่อโจทก์ขอเรียกค่าเสียหายมาด้วยในคำขอท้ายคำฟ้อง เป็นคดีมีทุนทรัพย์ โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลให้ถูกต้องด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2562
แม้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสิบร่วมกันเพิกถอนนิติกรรมสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินรวม 3 ฉบับ ซึ่งเป็นคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ แต่โจทก์ระบุคำขอท้ายฟ้องข้อ 2 ว่า หากจำเลยทั้งสิบเพิกเฉยให้จำเลยทั้งสิบร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 2,000,000,000 บาท และค่าเสียหายเป็นรายเดือน เดือนละ 2,000,000 บาท นับถัดจากวันครบกำหนดตามคำบังคับ ดังนั้นในส่วนที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 2,000,000,000 บาท เป็นการกำหนดจำนวนค่าเสียหายแล้ว จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ตามจำนวนค่าเสียหาย 2,000,000,000 บาท มิใช่ค่าเสียหายอนาคตที่กำหนดให้ชำระเป็นระยะเวลาในอนาคต คดีโจทก์จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์