สิทธิครอบครอง
ผู้ที่จะได้สิทธิครอบครองต้องมีการยึดถือทรัพย์สินโดยเจตนายึดถือเพื่อตน การกระทำที่จะถือว่าเป็นการยึดถือทรัพย์สินเพื่อตนอันจะได้สิทธิครอบครองหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาว่าผู้นั้นได้เข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์นั้นมากน้อยเพียงใด กล่าวคือ ต้องมีการครอบครองตามความเป็นจริง โดยการเข้ายึดถือทำประโยชน์ในทรัพย์สินให้เหมาะสมกับสภาพของทรัพย์สิน จึงจะได้สิทธิครอบครอง
คำพิพากษาฏีกาที่ 4993/2554
ที่ดินพิพาทซึ่งเป็นของรัฐนั้น ราษฎรไม่อาจยกสิทธิใดๆ ขึ้นยันรัฐได้ แต่ระหว่างราษฎรด้วยกันเอง แต่ละฝ่ายอาจยกสิทธิครอบครองขึ้นยันกันได้ หากฝ่ายใดยึดถือที่ดินพิพาทไว้โดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367 ฝ่ายนั้นย่อมมีสิทธิที่จะขัดขวางไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งหรือบุคคลภายนอกเข้ามารบกวนการครอบครองของตนตามมาตรา1374 ได้ ปัญหาสำคัญจึงอยู่ที่ว่า โจทก์ได้ยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตนนับแต่เวลาที่อ้างว่าได้ซื้อที่ดินมาจากนายสามารถตลอดมาจนถึงมีการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศภาพถ่ายหมาย ล.1 หรือไม่ ซึ่งการยึดถือที่จะได้สิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367 นั้นจะต้องเป็นการเข้าไปยึดถือครอบครองตามความเป็นจริง คือมีการอยู่อาศัยทำประโยชน์บนที่ดินที่ครอบครองพร้อมแสดงอาณาเขตแห่งการยึดถือครอบครองต่อบุคคลภายนอกอย่างชัดเจน หากจะให้ผู้อื่นยึดถือแทน ผู้ยึดถือแทนก็ต้องยึดถือครอบครองทรัพย์สินนั้นตามความเป็นจริงด้วยเช่นเดียวกัน
โจทก์มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพมหานครได้เดินทางไปดูที่ดินพิพาทเพียงปีละประมาณ 2 ถึง 3 ครั้ง ส่วน ธ. ผู้รับมอบอำนาจโจทก์เข้าไปดูสามเดือนบ้าง หกเดือนบ้างในลักษณะไปกลับในวันเดียวกัน จึงถือไม่ได้ว่า ธ. ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ดูแลในลักษณะยึดถือครอบครองที่ดินพิพาท โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทไว้เพื่อตนตามความเป็นจริง ลำพังเพียงโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทจากผู้ซึ่งอ้างว่ามีสิทธิทำกินไม่ทำให้โจทก์ได้สิทธิครองครองตามกฎหมายแต่อย่างใด เมื่อโจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองเหนือที่ดินพิพาทโจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยและจำเลยร่วมออกจากที่ดินพิพาท
ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1367 บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน ท่านว่าบุคคลนั้นได้ซึ่งสิทธิครอบครอง
มาตรา 1368 บุคคลอาจได้มาซึ่งสิทธิครอบครองโดยผู้อื่นยึดถือไว้ให้
มาตรา 1369 บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินไว้ ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า บุคคลนั้นยึดถือเพื่อตน