ผมกำลังจะซื้อบ้านใหม่ซึ่งผมได้ไปเช็คเครดิตปรากฎว่า ภรรยาผมติดแบล็กลิสต์
บทความวันที่ 1 ก.ค. 2553, 00:00
มีผู้อ่านทั้งหมด 26795 ครั้ง
การเปลี่ยนผู้กู้กรณีซื้อบ้าน
ผมกำลังจะซื้อบ้านใหม่ซึ่งผมได้ไปเช็คเครดิตปรากฎว่า ภรรยาผมติดแบล็กลิสต์เนื่องจากเมื่อปี 46 ภรรยาผมได้เป็นผู้กู้ร่วมกับแฟนเก่า(ไม่ได้จดทะเบียน) ต่อมาปี 47 เลิกกัน และแต่งงานกับผม ปี 49 (จดทะเบียน) มีบุตร 2 คน แฟนเก่าภรรยาได้ขาดส่งค่าบ้านกับ ธอส. ตั้งแต่เดือน ก.ย.51 ซึ่งเรื่องนี้ ผมเคยบอกกับภรรยาผมตอนแต่งงานใหม่ ๆ ว่าให้ไปถอนชื่อออกมาเสีย แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ผมโทรไปถามที่แบงก์ แบงก์ก็ให้คำตอบว่าให้เข้ามาประนอมหนี้ก่อน และต้องส่งค่างวดติดต่อกัน 2 ปี ถึงจะดำเนินการเปลี่ยนชื่อได้ และที่สำคัญเกรงว่าฝ่ายแฟนเก่าภรรยาจะโกงด้วย ผมควรจะทำอย่างไรดี รอให้แบงค์บังคับคดีขายทอดตลาดได้หรือไม่ หรือจะให้ภรรยาผมยื่นฟ้องดี
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
1. กรณีที่ท่านมีความประสงค์ที่จะขอเปลี่ยนชื่อของภริยาจากการเป็นผู้กู้ร่วมหรือลูกหนี้ร่วม ที่เขาได้มีชื่อเป็นผู้กู้ร่วมกับธนาคารเจ้าหนี้ กรณีจึงเป็นเรื่องที่ภริยาต้องการที่จะให้ธนาคารเจ้าหนี้ปลดหนี้ให้แก่ภริยาจากการเป็นผู้กู้ลูกหนี้ร่วม ซึ่งการที่ธนาคารจะทำการปลดชื่อภริยาจากการเป็นผู้กู้ลูกหนี้ร่วม ซึ่งการที่ธนาคารจะทำการปลดชื่อภริยาของท่านออกจากการเป็นหนี้กู้ร่วมกับแฟนเก่าหรือไม่ ย่อมเป็นอำนาจของธนาคารเจ้าหนี้ที่จะแสดงเจตนาต่อลูกหนี้ว่าจะปลดหนี้ให้ อันจะทำให้หนี้นั้นระงับสิ้นไป ตาม ป.พ.พ. มาตรา 340
ดังนั้น กรณีจึงต้องให้ธนาคารฟ้องบังคับคดีขายทอดตลาดบ้าน เพื่อให้ธนาคารหักชำระหนี้กู้ยืม และรับผิดชำระหนี้ค่าส่วนต่างต่อไป จึงจะทำให้หนี้ระงับแล้วสภาพการเป็นลูกหนี้ผู้กู้ร่วมย่อมสิ้นสภาพไป
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 340 ถ้าเจ้าหนี้แสดงเจตนาต่อลูกหนี้ว่าจะปลดหนี้ให้ ท่านว่าหนี้นั้นก็เป็นอันระงับสิ้นไป
ถ้าหนี้มีหนังสือเป็นหลักฐาน การปลดหนี้ก็ต้องทำเป็นหนังสือด้วย หรือต้องเวนคืนเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งหนี้ให้แก่ลูกหนี้ หรือขีดฆ่าเอกสารนั้นเสีย
