งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
การขอลดโทษผู้กระทำความผิดในคดียาเสพติด
ปัจจุบันมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นจำนวนมาก คดีอาญาส่วนใหญ่ในศาลเป็นคดียาเสพติดเกินร้อยละ 60 มีผู้กระทำความผิดถูกจับทุกวัน ทั้งที่มีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต กฎหมายเปิดช่องให้ผู้กระทำความผิดที่กลับใจแจ้งเบาะแสให้เจ้าพนักงาน โดยเฉพาะตำรวจเพื่อขยายผลการจับกุมผู้กระทำความผิดรายอื่น หากสามารถจับตัวผู้กระทำความผิดรายอื่นได้ และถ้าได้ของกลางเป็นจำนวนมาก จะทำให้ได้รับการลดโทษ ซึ่งศาลจะลงโทษน้อยเพียงใดก็ได้ ซึ่งศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดได้วางบรรทัดฐานในการลดโทษไว้แล้วว่า ผู้กระทำความผิดจะต้องมีหนังสือรับรองการชี้เบาะแสของสถานีตำรวจ และสำเนาบันทึกการจับกุม ประกอบการพิจารณาลดโทษ ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 100/2 โดยมีรายละเอียดของแนววินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ข้างล่างนี้
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2551 เวลากลางวัน จำเลยมีเมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 3 หน่วยการใช้ (เม็ด) น้ำหนักสุทธิ 0.27 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำเลยจำหน่ายโดยการขายไปในราคา 200 บาท อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมยึดธนบัตร และเมทแอมเฟตามีนดังกล่าว เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4,7,8,15,66,100/2,102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง , 66 วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 4 ปี ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 4 ปี รวมจำคุก 8 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แห่งการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 ปี ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง
ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติด ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ที่จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบาโดยลงโทษน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 100/2 นั้น เห็นว่า ตามหนังสือรับรองการชี้เบาะแสของสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีและสำเนาบันทึกการจับกุมเอกสารแนบท้ายอุทธรณ์ ซึ่งโจทก์มิได้โต้แย้งคัดค้านปรากฏว่า จำเลยได้ให้ข้อมูลเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษของนาย ว. ต่อเจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี จนทำให้เจ้าพนักงานตำรวจสามารถจับกุมนาย ว. พร้อมด้วยเมทแอมเฟตามีน 3 ถุง น้ำหนัก 2 กรัม จากข้อเท็จจริงดังกล่าวนับว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดที่ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งให้การปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจ จึงเห็นสมควรลงโทษจำเลยสถานเบา ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษจำคุกให้นั้น เห็นว่า ตามรายงานการสืบเสาะและพินิจปรากฏว่า จำเลยอายุ 69 ปีเศษ ประกอบอาชีพขายของเก่า จำเลยรับเมทแอมเฟตามีนจากนาย ส. สัปดาห์ละครั้ง ครั้งละ 2 ถึง 3 เม็ด เพื่อขายแก่วัยรุ่นในชุมชน ดังนี้เมทแอมเฟตามีนเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดชนิดร้ายแรงเป็นอันตรายแก่ผู้เสพทั้งเป็นบ่อเกิดแห่งปัญหาอาชญากรรมและปัญหาสังคมอื่น ๆ พฤติการณ์ที่จำเลยนำเมทแอมเฟตามีนมาจำหน่ายแก่วัยรุ่น เป็นเหตุให้เมทแอมเฟตามีนแพร่ระบาดไปสู่สังคม จึงเป็นพฤติการณ์ร้ายแรง แม้จำเลยจะเป็นผู้สูงอายุป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู และเป็นเพียงผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยก็ตาม แต่ก็ไม่เป็นเหตุเพียงพอที่จะรอการลงโทษแก่จำเลย อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน
อนึ่ง ตามคำฟ้องปรากฏว่า เจ้าพนักงานยึดธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อเป็นของกลาง แต่ไม่ปรากฎว่าเจ้าพนักงานได้จัดการอย่างใดกับของกลางดังกล่าว และศาลชั้นต้นไม่ได้มีคำสั่งให้คืนของกลางแก่เจ้าของ ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดจึงเห็นสมควรคืนของกลางดังกล่าวแก่เจ้าของ
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละ 6 เดือน รวมจำคุก 12 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
มาตรา 100/2 ถ้าศาลเห็นว่าผู้กระทำความผิดผู้ใดได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ หรือพนักงานสอบสวน ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นก็ได้
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 78 เมื่อปรากฏว่ามีเหตุบรรเทาโทษ ไม่ว่าจะได้มีการเพิ่มหรือการลดโทษตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นแล้วหรือไม่ ถ้าศาลเห็นสมควรจะลดโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้นก็ได้
เหตุบรรเทาโทษนั้น ได้แก่ผู้กระทำความผิดเป็นผู้โฉดเขลาเบาปัญญาตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีคุณความดีมาแต่ก่อน รู้สึกความผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดนั้น ลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานหรือให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา หรือเหตุอื่นที่ศาลเห็นว่ามีลักษณะทำนองเดียวกัน