เหตุผล 3 ข้อ ที่กัมพูชาไม่ส่ง ทักษิณ ชินวัตร ให้ไทย|เหตุผล 3 ข้อ ที่กัมพูชาไม่ส่ง ทักษิณ ชินวัตร ให้ไทย

เหตุผล 3 ข้อ ที่กัมพูชาไม่ส่ง ทักษิณ ชินวัตร ให้ไทย

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

เหตุผล 3 ข้อ ที่กัมพูชาไม่ส่ง ทักษิณ ชินวัตร ให้ไทย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ว่า อุปทูตของไทย 3 คน

บทความวันที่ 12 พ.ย. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 634 ครั้ง


เหตุผล 3 ข้อ ที่กัมพูชาไม่ส่ง ทักษิณ ชินวัตร ให้ไทย

        สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ว่า อุปทูตของไทย 3 คน ได้เข้ายื่นหนังสือขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้กับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา และเจ้าหน้าที่กัมพูชาส่งจดหมายอย่างเป็นทางการกลับถึงอุปทูตไทย ปฏิเสธการส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้กับไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน

        โดย นายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา กล่าวกับเอเอฟพีก่อนที่เจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศจะแลกเปลี่ยนจดหมาย ว่า จดหมายของฝ่ายกัมพูชาที่ให้กับไทย คือ การปฏิเสธคำขอส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ

        ขณะที่สื่อโทรทัศน์ของกัมพูชา ช่องทีวีเค (TVK) ได้เผยเทปบันทึกการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของประเทศกัมพูชา พร้อมกับสมเด็จฮุน เซน ซึ่งถือเป็นการให้สัมภาษณ์ครั้งแรกของ พ.ต.ท.ทักษิณ หลังจากเดินทางถึงประเทศกัมพูชา

        โดยระหว่างการสัมภาษณ์ สมเด็จฮุน เซน ได้นำเอกสารที่รัฐบาลไทยส่งมาให้กับทางการกัมพูชา ในการขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนยื่นให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ดูพร้อมกับกล่าวว่า ขอให้มั่นใจได้ว่าทางการกัมพูชาจะไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาที่ประเทศไทย ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ
        1. พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของสมเด็จฮุน เซน  เป็นตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งโดยกษัตริย์ของกัมพูชา
        2. สัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน จะไม่นับรวมในกรณีที่เป็นนักโทษทางการเมือง
        3. คดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นผู้ต้องหานั้น เป็นคดีที่เกิดขึ้นหลังการทำรัฐประหารที่ประเทศไทย ซึ่งไม่มีความเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แบบ

        บรรยากาศตลอดการให้สัมภาษณ์นั้น สมเด็จฮุน เซน นั่งเคียงข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ตลอด โดยมีนักข่าวของกัมพูชานั่งอยู่โดยรอบจำนวน 5 คน ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียด และได้อธิบายถึงหลักการที่จะมาดำเนินงานในฐานะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี

        ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามคำถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าตามที่เคยบอกไว้ว่า จะมาพัฒนาเศรษฐกิจที่กัมพูชา จะทำอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า จะยกเรื่องการปฏิรูประบบการเงินของกัมพูชา จะบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ และได้ยกทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำมาใช้ที่ประเทศกัมพูชา และจะนำการค้าการลงทุนในระดับที่พอเหมาะเข้ามาที่ประเทศกัมพูชาให้ได้มากที่สุด

        ขณะที่สมเด็จฮุน เซน ได้พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) และพรรคเพื่อไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ทั้งสองพรรคการเมืองมีความสัมพันธ์ที่ดีมายาวนานตั้งแต่สมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคไทยรักไทยอยู่ ซึ่งคล้ายๆ กับพรรคประชาธิปัตย์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็มีความสัมพันธ์กับพรรคสมรังสีเช่นกัน ถ้าพรรคประชาธิปัตย์อยากที่จะแต่งตั้งนายสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยก็ยินดี ไม่มีปัญหา

        ส่วนปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่เกิดขึ้นอยู่นั้น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เห็นว่า หากมองในระดับประชาชนคนไทย และคนกัมพูชาก็ยังรักกันอยู่ และรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีอยู่ เพียงแต่ปัญหาที่เกิดขึ้น  เป็นปัญหาส่วนตัวระหว่างสมเด็จฮุนเซน และนายอภิสิทธิ์

        สำหรับกำหนดการทำงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีการเปิดเผยที่ชัดเจน แต่ในวันที่ 12 พ.ย.นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปพูดคุยกับกระทรวงการเศรษฐกิจและการคลังของกัมพูชา จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังเสียมราฐ และคาดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะหาเวลามาพูดคุยกับสื่อมวลชนไทยที่ไปรอทำข่าว

        อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 10 พ.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ของไทยได้เดินทางถึงกัมพูชาแล้ว ด้วยเครื่องบินเจ็ตจากอินเดีย มาลงที่สนามบินทหารในกรุงพนมเปญ โดยทีวีกัมพูชาถ่ายทอดภาพนาทีที่เดินทางมาถึงด้วย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดอย่างยิ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหารรวมกันกว่า 100 นาย ต้อนรับ แถมมีบอดี้การ์ดประจำตัวของฮุน เซน มาคอยคุ้มกัน โดยคณะของ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมากับผู้ติดตามไม่ถึง 10 คน

        ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ของกัมพูชา ได้เผยแพร่ภาพขณะที่ สมเด็จฮุนเซน เข้าสวมกอด พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมทั้งกล่าวพรรณนาว่า "จะเป็นเพื่อนกันตลอดไป" และกล่าวว่า "ที่ปรึกษาที่ดีที่สุดในฐานะผู้นำเศรษฐกิจ"

        โดย นายฟาย สีฟาน (Phay Siphan) โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่นี่ เพื่อประเด็นด้านเศรษฐกิจ และไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด ซึ่งการมาในครั้งนี้ถือเป็นเกียรติแก่ภาคเศรษฐกิจ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ มีกำหนดการณ์เข้าพบกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนักเศรษฐศาสตร์ขาวกัมพูชากว่า 300 คนในวันพฤหัสบดี ที่ 12 พ.ย.นี้

        นอกจากท่าทีของรัฐบาลแล้ว เสียงจากประชาชนชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ ดูเหมือนจะตอบรับการเดินทางมาในครั้งนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในทางบวก หลายวงสนทนานำเรื่องการเดินทางมาของอดีตนายกฯ ทักษิณ มาเป็นประเด็นหลักในวงพูดคุย

        โดย "เฮง ลี" คนขับสามล้อ บอกว่า เขาไม่สนว่าความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาในระดับชาติจะเป็นอย่างไร เพราะฮุน เซน เป็นคนที่พวกเขาฝากความหวังไว้ได้ และทักษิณก็ทำให้เศรษฐกิจกัมพูชาดีขึ้น

        ด้าน "เสร็ง เห่ง" เจ้าของร้านขายรถจักรยานยนต์ ก็ไม่เกรงกลัวว่าจะไทยจะตัดความสัมพันธ์ทางการค้า  เพราะรถมอเตอร์ไซค์ที่เขาขายอยู่ทุกวันนี้ถ้ารับจากไทยไม่ได้ เขาก็รับมาจากญี่ปุ่นได้

        ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หลังเดินทางถึงกัมพูชา ก็ได้โพสต์ข้อความลง twitter ในชื่อ @ Thaksinlive  ข้อความสรุปว่า มาถึงกรุงพนมเปญแล้ว คิดถึงบ้านมาก เตรียมพบปะรับประทานอาหารกับครอบครัวของสมเด็จฮุนเซน พร้อมขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ คงไม่มีอะไรแย่กว่าที่เคยโดนมาแล้ว เพียงแต่อยากให้สื่อและทุกฝ่ายเป็นกลางและเป็นธรรม บ้านเมืองจะได้คืนสู่ภาวะปกติ อย่างน้อยตนเคยทำประโยชน์ให้สังคม ขอย้ำว่าชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อยู่ในใจตลอด

ขอขอบคุณข้อมูลจากการสรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม  ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ , มติชนออนไลน์, เดลินิวส์, ข่าวสด, แนวหน้า

 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก