ลักทรัพย์ของหลวง
ช่วงนี้จะมีข่าวการลักทรัพย์ของทางราชการหลายชนิด เช่น ลักนอตเสาไฟฟ้า ลักตัดสายโทรศัพท์ ลักป้ายทางหลวง ผลเนื่องมาจากส่วนหนึ่งคนไม่มีงานทำ กรณีนี้ก็เช่นกัน ลักฝาท่อระบายน้ำย่านฝั่งธน
ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีความผิดฐานลักทรัพย์ มีความผิดทั้งผู้ลักทรัพย์และรับซื้อของโจรคือร้านรับซื้อของเก่า
ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 334 ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น
หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวม อยู่ด้วยไปโดยทุจริต
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพันบาท
มาตรา 357
ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ
รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระ ทำความผิดถ้าความผิดนั้นเข้าลักษณะลักทรัพย์
วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีด เอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอกหรือ เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรับของโจรต้อง ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
หรือทั้ง จำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดฐานรับของโจรนั้น
ได้กระทำเพื่อค้ากำไร หรือได้กระทำต่อทรัพย์อันได้มาโดยการลักทรัพย์ตาม มาตรา
335(10) ชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่
หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงสองหมื่นบาท
รายละเอียดรายงานข่าวมีดังนี้
ตามจับได้อีกแก๊ง!
ลักฝาท่อระบายน้ำ [18 มี.ค. 51 - 04:29]
แก๊งลักฝาท่อระบายน้ำออกอาละวาดย่านฝั่งธนฯเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่
17 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนที่ใช้เส้นทางลอดอุโมงค์แยกท่าพระ
ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ ว่าฝาท่อระบายน้ำของ กทม.
บนฟุตปาทสองข้างทางลอดอุโมงค์ ดังกล่าวหายไป
สงสัยถูกขโมยไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่า
เมื่อไปตรวจสอบ พบว่าตะแกรงเหล็กฝาท่อระบายน้ำบนฟุตปาทริมถนนทั้งสองข้างถูกงัดหายไปเกือบหมดโดยบางส่วน
กทม.นำแผ่นคอนกรีตไปปิดทับเพื่อความปลอดภัย จากการสอบถาม พ.ต.อ.เมธี รักพันธ์ ผกก.สน.
ท่าพระ ได้รับการเปิดเผยว่า ถูกคนร้ายตระเวนโจรกรรมจริง
และติดตามจับกุมคนร้ายได้แล้ว 1 คน
ผกก.สน.ท่าพระกล่าวว่า
ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายลักฝาท่อระบายน้ำของ กทม. สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ใช้
รถใช้ถนนจนเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ
ได้กำชับเจ้าหน้าที่สายตรวจให้ออกตรวจตราพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ในที่สุดพบแก๊งหัวขโมยกำลังตระเวนงัดตะแกรงเหล็กฝาท่อระบายน้ำในพื้นที่คาหนังคาเขา
เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่
29 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยขณะที่ พ.ต.ท.บรรเทา อรุณประชารัตน์
สวป.สน.ท่าพระ ออกปฏิบัติหน้าที่บริเวณแยกท่าพระ พบรถบรรทุก 6 ล้อ สีฟ้า
ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 92-8461 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในทางลอดอุโมงค์ แยกท่าพระ
ลักษณะผิดสังเกต เนื่องจากมีชาย 2 คนกระโดดขึ้น-ลงจากรถ
คล้ายเก็บสิ่งของบนถนนอย่างรีบเร่ง จึงขับรถสายตรวจเข้าไปตรวจสอบ
ปรากฏว่าเมื่อรถต้องสงสัยเห็นตำรวจ รีบบึ่งหลบหนีมุ่งหน้าถนนสาทรอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่สายตรวจจึงขับรถติดตามไปอย่างกระชั้นชิด
กระทั่งสามารถสกัดรถต้องสงสัยไว้ได้บนสะพานสาทรคนขับและเพื่อนอีก 2 คนเห็นท่าไม่ดี
ทิ้งรถวิ่งหลบหนีไปได้หวุดหวิด จากการตรวจค้นภายในรถ
พบฝาตะแกรงเหล็กปิดท่อระบายน้ำของ กทม. ขนาดกว้าง 60 ซม. ยาว 90 ซม. จำนวน 10 ฝา
จึงยึดรถและของกลางส่งให้ พ.ต.ท. หอมหวล คงขวัญ พงส. (สบ 2) สอบสวนขยายผล
ต่อมาตรวจสอบทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของบริษัทสัมฤทธิ์ผล
รับจ้างขนดินอยู่แยกมหานาค ในคืนเกิดเหตุ มีนายรณชัย ลิมปิผลไพบูลย์
อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/7 หมู่ 10 ถนนอ่อนนุช แขวงและเขตประเวศ กทม. ลูกจ้าง
เป็นคนขับ จึงประสานเจ้าของรถให้พาเข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นนายรณชัยรับสารภาพว่า
ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน คือ นายสาหล
พรมมะดัน อายุ 30 ปี และนายอภิชาติ ชัยงาม อายุ 30 ปี
ลูกจ้างขับรถแห่งหนึ่ง ตระเวนงัดตะแกรงเหล็กท่อระบายน้ำไปขาย
อ้างว่าตอนเย็นวันเกิดเหตุ นายสา หลและนายอภิชาติไปหาที่ตลาดมหานาค
จากนั้นชักชวนไปตระเวนลักฝาท่อระบายน้ำไปขายเพื่อหาเงินมาดื่มเหล้า
แต่โชคร้ายขณะลงมือมีตำรวจมาพบเสียก่อนจึงต้องขับรถหลบหนี ขณะนี้ได้ประสาน
กทม.ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องมาแจ้งความดำเนินคดีในฐานะผู้เสียหาย
เพื่อออกหมายจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีต่อไป ส่วนนายรณชัย ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ที่ใช้ประโยชน์ในทางสาธารณะในเวลากลางคืน
โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด และกำลังขยายผลว่านำไปขายให้ร้านใด
โดยคาดว่าน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
ด้านนางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย
รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ได้ประสานให้นายชาตินัย เนาวภูติ
ผอ.สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ส่งเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความดำเนินคดีที่
สน.ท่าพระแล้ว และจะถือโอกาสนี้ให้ข้อมูลเรื่องทรัพย์สินสาธารณะของ
กทม.ที่มักถูกขโมยบ่อยครั้งโดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
เนื่องจากเศรษฐกิจฝืดเคืองทำให้ทรัพย์สินต่างๆ เช่น แผ่นอะลูมิเนียมครอบรอยต่อราวกันตก
รั้วเหล็กกั้นแนวทางโค้ง และหลอดไฟฟ้า ถูกโจรกรรมจนกลายเป็นเรื่องปกติ
แต่สิ่งเหล่านี้สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน
ดังนั้น จึงอยากฝากให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากเห็นสิ่งผิดปกติในช่วงค่ำคืน
ส่อไปในทางกลุ่มมิจฉาชีพจะขโมยทรัพย์สินของทางราชการ ก็ขอให้แจ้งตำรวจทันที
นอกจากนี้ อยากฝากเตือนร้านรับซื้อของเก่า ช่วยพิจารณาเลือกสิ่งของก่อนซื้อ
หากรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นทรัพย์สินของหลวงแล้วยังรับซื้อต่ออีก
ต้องถูกรับโทษข้อหารับซื้อของโจร
พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ
โฆษก ตร. กล่าวถึงมาตรการป้องกันการลักทรัพย์สินสาธารณะว่า
ฝ่ายปกครองได้มาระบุเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมร้านค้าของเก่า
เป็นเรื่องที่ต้องมีการหารือกันในเรื่องมาตรการ
ถ้าได้รับความร่วมมือจากเจ้าของร้าน เอาใจใส่คนที่นำของเก่ามาขาย
มีการจดเลขทะเบียนบัตรประชาชนไว้จะเป็นการป้องปรามได้ ส่วนหนึ่ง
รวมทั้งป้องกันฝ่ายเจ้าของร้านว่าไม่มีเจตนารับซื้อของโจร ฝ่ายตำรวจ ฝ่ายปกครอง
และผู้ประกอบการร้านของเก่าต้องหารือกัน
เพื่อให้ธุรกิจขายของเก่าสามารถดำเนินการได้อย่างถูกกฎหมาย
เนื่องจากผู้ประกอบการต้องทำธุรกิจให้มีกำไร แต่ว่าถ้าธุรกิจนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือของพวกลักเล็กขโมยน้อยเอาทรัพย์สินทางราชการไปขาย
แม้ราคาไม่มาก แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นมากมาย เช่น ลักนอตเสาไฟฟ้าแรงสูง
หากช่วยกันทุกฝ่าย ประชาชนเป็นหูเป็นตา เชื่อว่าจะสามารถป้องปรามได้
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
