คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4836/2567
บทความวันที่ 26 มิ.ย. 2568, 10:30
มีผู้อ่านทั้งหมด 108 ครั้ง
ผิดนัดคืนรถ เรียกค่าขาดราคาได้ แต่ศาลมีสิทธิ์ลดค่าเสียหายลงได้
#คืนรถ #ขาดราคา #ค่าเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4836/2567
จำเลยที่ 1 ไม่สามารถชำระค่าเช่าซื้อแก่โจทก์ได้ และส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนให้แก่โจทก์ภายหลังจากที่ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อติดต่อกันเป็นเวลา 3 งวด บ่งชี้ว่าจำเลยที่ 1 ต้องการที่จะเลิกสัญญาเช่าซื้อ แม้จำเลยที่ 1 ได้ชื่อว่าเป็นลูกหนี้ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ และสัญญาเช่าซื้อไม่มีข้อตกลงให้สิทธิจำเลยที่ 1 บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อต่อโจทก์ได้ จำเลยที่ 1 ก็บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อต่อโจทก์ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 573 ด้วยส่งมอบทรัพย์สินกลับคืนให้แก่เจ้าของโดยเสียค่าใช้จ่ายตนเอง อันเป็นบทบัญญัติกำหนดสิทธิและวิธีบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อโดยผู้เช่าซื้อไว้เป็นการเฉพาะนอกจากการเลิกสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 2 ลักษณะ 2 สัญญา หมวด 4 การที่จำเลยที่ 1 ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนให้แก่โจทก์โดยมีเจตนาจะเลิกสัญญาและโจทก์รับมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อไว้ สัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 เป็นอันเลิกกันด้วยเหตุที่จำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาตาม มาตรา 573 หาใช่โจทก์จำเลยที่ 1 สมัครใจเลิกสัญญากันโดยปริยายไม่ โจทก์มีสิทธิเรียกค่าขาดราคาตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการเช่าซื้อรถยนต์
ข้อตกลงที่กำหนดให้จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดในส่วนที่ขาดนี้เป็นการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้า มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 379 หากสูงเกินส่วนศาลย่อมมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตามมาตรา 383 วรรคหนึ่ง
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการเช่าซื้อรถยนต์ ข้อ 14 กำหนดถึงความรับผิดในเบี้ยปรับเฉพาะแต่เบี้ยปรับของค่าเช่าซื้อที่ผิดนัดนับแต่วันถึงกำหนดชำระค่าเช่าซื้อแต่ละงวดจนถึงวันชำระครบถ้วน และค่าเสียหายเพียงเท่าที่โจทก์ได้ใช้จ่ายไปจริง กรณีที่โจทก์ได้รับความเสียหายใดๆ เนื่องจากจำเลยที่ 1 ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ข้อกำหนดและเงื่อนไขหาได้กำหนดรวมถึงเบี้ยของค่าขาดราคาด้วยไม่ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยของค่าขาดราคาในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี แต่ค่าขาดราคาเป็นหนี้เงิน โจทก์มีสิทธิเรียกดอกเบี้ย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224
มีปัญหาข้อกฎหมายสอบถาม 02-948-5700 หรือ 081-616-1425 หรือ 081-625-2161, 081-821-7470
