งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
ผัวเมียไม่จดทะเบียนทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันเป็นกรรมสิทธิ์รวมแต่เป็นภาระการพิสูจน์ของฝ่ายที่อ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมต้องนำสืบให้ได้ว่าทำมาหาได้ร่วมกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087/2566
ห้องชุดพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่ได้จดทะเบียนไว้ในทะเบียนที่ดิน โจทก์ซึ่งมีชื่อในทะเบียนจึงได้รับผลประโยชน์จากข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 ว่าเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง จำเลยให้การต่อสู้ว่าห้องชุดพิพาทเป็นทรัพย์สินที่ พ. และโจทก์ทำมาหาได้ร่วมกันระหว่างอยู่กินด้วยฉันสามีภริยา จึงเป็นกรรมสิทธิ์รวมของบุคคลทั้งสอง จำเลยย่อมมีภาระการพิสูจน์หักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมายดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84/1
โดยเหตุที่การได้มาซึ่งทรัพย์สินที่คู่สมรสฌโดยชอบด้วยกฎหมายได้มาระหว่างสมรสซึ่งมีสถานะทางกฎหมายเป็นสินสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1474(1) กับการได้มาซึ่งทรัพย์สินระหว่างอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาของชายหญิงมิได้จดทะเบียนสมรส ซึ่งมีสถานะทางกฎหมายเป็นกรรมสิทธิ์รวมของชายหญิงนั้นมีความแตกต่างกัน กล่าวคือ กรณีสามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรสไม่ว่าฝ่ายใดได้มาถือว่าเป็นสินสมรสทั้งสิ้น แม้อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนในการทำมาหาได้ด้วยก็ตาม ส่วนกรณีทรัพย์สินที่ชายหญิงที่มิได้จดทะเบียนสมรสได้มาระหว่างอยู่กินฉันสามีภริยาที่จะถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์รวมของชายหญิงนั้น ต้องได้ความว่าทั้งสองฝ่ายต่างมีส่วนร่วมทำมาหาได้ทรัพย์สินนั้นด้วยกัน ทรัพย์สินที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำมาหาได้เพียงฝ่ายเดียวโดยอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยย่อมตกเป็นของฝ่ายนั้นแต่ผู้เดียว มิใช่กรรมสิทธิ์รวมของทั้งสองฝ่าย ดังนั้น ภาระการพิสูจน์หักล้างข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 ว่าห้องชุดพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์รวมของโจทก์กับ พ. นอกจากจำเลยต้องนำสืบว่าห้องชุดพิพาทเป็นทรัพย์สินที่โจทก์และพ. ได้มาระหว่างอยู่กินฉันสามีภริยาแล้วยังต้องนำสืบพยานหลักฐานให้ได้ความว่าห้องชุดพิพาทเป็นทรัพย์สินที่โจทก์และ พ. ได้มาระหว่างอยู่กินฉันสามีภริยาแล้วยังต้องนำสืบพยานหลักฐานให้ได้ความว่า ห้องชุดพิพาทเป็นทรัพย์สินที่เกิดจากโจทก์และ พ. ทำมาหาได้ร่วมด้วย
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-8217470, 081-6252161