โชเฟอร์รถโม่ปูนโมโหเห็นเมียถูกตี คว้ามีดแทงสวนหนุ่มจับกังดับคาห้องพัก|โชเฟอร์รถโม่ปูนโมโหเห็นเมียถูกตี คว้ามีดแทงสวนหนุ่มจับกังดับคาห้องพัก

โชเฟอร์รถโม่ปูนโมโหเห็นเมียถูกตี คว้ามีดแทงสวนหนุ่มจับกังดับคาห้องพัก

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

โชเฟอร์รถโม่ปูนโมโหเห็นเมียถูกตี คว้ามีดแทงสวนหนุ่มจับกังดับคาห้องพัก

  • Defalut Image

จากข่าวผู้ก่อเหตุเป็นสามีของผู้เสียบาดเจ็บ ซึ่งเหตุมาจากผู้ตายดื่มเหล้าเมาแล้วมาอาละวาด

บทความวันที่ 19 พ.ค. 2563, 11:34

มีผู้อ่านทั้งหมด 1008 ครั้ง


โชเฟอร์รถโม่ปูนโมโหเห็นเมียถูกตี คว้ามีดแทงสวนหนุ่มจับกังดับคาห้องพัก

    จากข่าวผู้ก่อเหตุเป็นสามีของผู้เสียบาดเจ็บ ซึ่งเหตุมาจากผู้ตายดื่มเหล้าเมาแล้วมาอาละวาด ใช้สากมาตีผู้บาดเจ็บ และผู้ก่อเหตุได้บอกให้หยุดแล้วไม่หยุุดแล้วนำสากมาตีตนซ้ำอีก จึงตัดสินใจนำมีดในห้องครัวออกมาแทงสวนผู้ตายหลายครั้ง ผู้ตายเดินกลับไปที่ห้องเช่าและล้มลงขาดใจตาย ส่วนตนก็รอมอบตัวกับตำรวจ การกระทำดังกล่าวต้องแยกเป็น 2 ประเด็น
    1. หากผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน การกระทำดังกล่าวของผู้ก่อเหตุ เป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ เป็นความผิดอาญามาตรา 288 และ 72
    2. หากผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บจดทะเบียนโดยชอบด้วยกฎหมาย การกระทำดังกล่าวย่อมมีสิทธิป้องกันมิให้ชายอื่นหรือหญิงอื่นมาประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงต่อสามีหรือภริยาตน  การกระทำดังกล่าวเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่อาจจะเป็นการป้องกันเกินกว่า
( ที่มา https://www.thairath.co.th )

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2373/2544
    การกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนที่จะถือว่าเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย สิทธิอันบุคคลมีอยู่นั้นต้องเป็นสิทธิที่กฎหมายรับรองและคุ้มครองให้ด้วย การที่จำเลยยิงผู้เสียหายขณะที่ผู้เสียหายลักลอบหลับนอน ร่วมประเวณีกับ ส. ซึ่งมิได้เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลย และข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่ามีภยันอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายต่อ ส. การกระทำดังกล่าวของจำเลยจึงไม่เป็นการป้องกันสิทธิโดยชอบ แต่แม้ว่าจำเลย และ ส. จะมิได้เป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย แต่จำเลยก็ได้อุปการะเลี้ยงดู ส. เยี่ยงภริยา ซึ่งผู้เสียหาย ก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของจำเลยกับ ส. แต่ผู้เสียหายก็ยังไปลักลอบร่วมประเวณีกับ ส. การที่จำเลยยิงผู้เสียหายในขณะ ดังกล่าวจึงเป็นการบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2394/2526
    จำเลยกับผู้ตายเป็นสามีภรรยามาประมาณ 11 ปี มีบุตรชาย 1 คน อยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ก่อนเกิดเหตุประมาณ 7 เดือน ผู้ตายไปทำเหมืองพลอยที่จังหวัดตราด ส่วนจำเลยไม่ได้ไปอยู่ด้วยแต่ไปที่เหมืองเป็นครั้งคราว วันเกิดเหตุจำเลยไปถึงบ้านผู้ตายที่เหมืองเมื่อเวลาประมาณ 21 นาฬิกา เห็นบ้านพักปิดจึงแอบดูตามช่องประตูไม้บ้านพัก เห็นผู้ตาย กับผู้หญิงนอนเปลือยกาย กันอยู่ในห้องสองต่อสอง เมื่อจำเลยเคาะประตู ผู้หญิงคนนั้นได้ตะโกนถามว่าเคาะทำไม ตามพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมกระทบกระเทือนจิตใจของจำเลยผู้เป็นภรรยาอย่างมาก เมื่อผู้ตายเปิดประตูห้องออก มา จำเลยก็ใช้อาวุธปืนที่นำติดตัวไปยิงผู้ตายทันที 3 นัด ผู้ตายถึงแก่ความตาย ย่อมเป็นกรณีที่จำเลยได้กระทำลงไปด้วยอารมณ์หึงหวงและโกรธแค้น ในขณะที่ยังไม่สามารถควบคุมสติและระงับอารมณ์โกรธได้ ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงทางด้านจิตใจด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
    มาตรา 67 
ผู้ใดกระทำความผิดด้วยความจำเป็น
    (1) เพราะอยู่ในที่บังคับ หรือภายใต้อำนาจซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนได้ หรือ
    (2) เพราะเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึงและไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นใดได้ เมื่อภยันตรายนั้นตนมิได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะความผิดของตน
    ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุแล้ว ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
     มาตรา 68  ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด
    มาตรา 69  ในกรณีที่บัญญัติไว้ในมาตรา 67 และมาตรา 68 นั้น ถ้าผู้กระทำได้กระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็น หรือเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ แต่ถ้าการกระทำนั้นเกิดขึ้นจากความตื่นเต้น ความตกใจ หรือความกลัว ศาลจะไม่ลงโทษผู้กระทำก็ได้
    มาตรา 72  ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก