สิทธิส่วนบุคคลสิทธิในครอบครัวเกียรติยศชื่อเสียงหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวย่อมได้รับความคุ้มครองตามธรรมนูญมาตรา 32|ทนายคลายทุกข์,ทนาย

สิทธิส่วนบุคคลสิทธิในครอบครัวเกียรติยศชื่อเสียงหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวย่อมได้รับความคุ้มครองตามธรรมนูญมาตรา 32

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

สิทธิส่วนบุคคลสิทธิในครอบครัวเกียรติยศชื่อเสียงหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวย่อมได้รับความคุ้มครองตามธรรมนูญมาตรา 32

  • Defalut Image

การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์ไม่ว่าทางใดๆจะกระทำมิได้

บทความวันที่ 28 มิ.ย. 2560, 10:11

มีผู้อ่านทั้งหมด 5140 ครั้ง


สิทธิส่วนบุคคลสิทธิในครอบครัวเกียรติยศชื่อเสียงหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวย่อมได้รับความคุ้มครองตามธรรมนูญมาตรา 32

           การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์ไม่ว่าทางใดๆจะกระทำมิได้ ทนายคลายทุกข์ขอเรียนว่า การวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับปัญหาครอบครัวของบุคคลอื่นหรือนำมาโพสต์ทาง Facebook ไม่อาจทำได้นะครับ มีความผิดตามกฏหมายครับ  คำพิพากษาฎีกาที่ 4301/2541  สิทธิส่วนบุคคลในครอบครัวเกียรติยศชื่อเสียงหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวย่อมได้รับความคุ้มครองโจทก์มีปัญหาครอบครัวทะเลาะเบาะแว้งกัน มีปัญหากับพนักงานในสาขาของธนาคารจึงได้ถูกย้ายไปสำนักงานใหญ่คงอยู่ไม่ได้นานต้องถูกไล่ออก "คำพูดดังกล่าวเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงที่ล่วงล้ำสิทธิส่วนบุคคลมีความผิดฐานหมิ่นประมาท"  การแสดงความคิดเห็นผ่านทาง Facebook ไม่จำเป็นต้องไปด่าชาวบ้านเค้าหรอกครับถ้ามีใครมาด่าเราเราก็ไม่ชอบจะไปด่าเค้าทำไมใจเขาใจเราการแสดงความคิดเห็นก็ขอให้แสดงความคิดเห็นโดยสุจริตนะครับเพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 34  ถึงแม้จะบัญญัติว่าบุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นก็ตาม แต่การแสดงความคิดเห็นรัฐธรรมนูญก็บัญญัติว่า "ต้องเคารพความเห็นของคนอื่นนะครับและต้องไม่ปิดกั้นความเห็นต่างของบุคคลอื่น" การเล่น Facebook หรือการแสดงความคิดเห็นทาง Facebook ก็ไม่จำเป็นต้องไปด่าคนอื่นเขานะครับเพราะทุกวันนี้ผู้เสียหาย "ก็มีการดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่งหลายหมื่นคดีในชั้นศาล" แต่ไม่ได้เป็นข่าวเมื่อไปถึงศาลก็ยอมรับสารภาพต้องไปขอโทษเขาหลายคดีต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนมากก็หลายคดี แต่ไม่ได้เป็นข่าวเท่านั้นเอง เราเองยังไม่อยากให้ใครมาด่าเราแล้วเราจะไปด่าเขาทำไมครับใจเขาใจเรา
ด้วยความปรารถนาดีจากทนายคลายทุกข์

คำพิพากษาฎีกาที่เกี่ยวข้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4301/2541

สิทธิส่วนบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวย่อมได้รับความคุ้มครอง การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการธนาคารกล่าวข้อความว่า"โจทก์มีปัญหาในครอบครัว ทะเลาะเบาะแว้งกัน มีปัญหากับพนักงานในสาขาถึงได้ถูกย้ายไปสำนักงานใหญ่คงอยู่ไม่ได้นานต้องถูกไล่ออก" ต่อ อ. ลูกค้าของธนาคารย่อมเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงที่ล่วงสิทธิส่วนบุคคลซึ่งข้อความดังกล่าววิญญูชนทั่วไปย่อมจะเข้าใจได้ว่าโจทก์ซึ่งเป็นพนักงานฝ่ายสินเชื่อเป็นคนไม่ดีทะเลาะกับสามีมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานจนต้องถูกย้ายและกระทำความผิดร้ายแรงถึงขนาดจะถูกไล่ออกจากงานด้วย จึงเป็นข้อความที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังอันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท หาใช่เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่สามีภริยาทะเลาะกันหรือเป็นคำติชมของผู้บังคับบัญชาหรือเป็นการกล่าวคาดคะเนแต่อย่างใดไม่ แต่เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีที่จำเลยกล่าวข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ต่อญาติของโจทก์เพียงคนเดียว และข้อความหมิ่นประมาทก็มิได้ทำให้ โจทก์เสียหายมากมายนัก นับว่าเป็นการกระทำความผิดที่มีลักษณะ ไม่ร้ายแรง ที่ศาลชั้นต้นกำหนดโทษจำคุกและรอการลงโทษนั้น หนักเกินไปควรให้ปรับจำเลย 5,000 บาท

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก