งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
เวลาพักกับเวลาเบรกของพนักงาน
ดิฉันมีความสงสัยว่า.....คือดิฉันทำงานบ.เอกชนแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับอาหาร ดิฉันทำงานตำแหน่งพนักงานควบคุมคุณภาพ ดิฉันทำงานเป็นกะ เปลี่ยนกะอาทิตย์ละครั้ง ถ้าเข้ากะกลางวันจะทำงานตั้งแต่ เวลา 08.15-18.00 น. และถ้ากะกลางคืน เวลา 19.15-05.00 น. มีเวลาพักเบรก คือช่วงพักเที่ยง และ เวลา15.00-15.15 น. ถ้ากะกลางคืน เวลาพัก ช่วงเที่ยงคืน และ 03.00-03.15 น.
1.ดิฉันสงสัยว่าบ.ให้ทำงานเกินวันละ 8 ชั่วโมงหรือไม่ และเวลาพักเบรก 15 นาที บ.ให้เวลาเราพัก หรือว่ามันเป็นเวลาที่เราต้องใช้เวลาของตัวเองพักเพื่อให้เครื่องจักรของ บ.ได้พักกันแน่
2.บ.นี้มีวันหยุดให้พนักงาน 2 วันคือวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ว่าดิฉันไม่ได้หยุดเลย เพราะงานในส่วนที่ดิฉันรับผิดชอบต้องมา ถ้าหากงานมีปัญหาก็ต้องควบคุมได้ ดิฉันต้องมาทุกวันเลยประมาณ 3 เดือนแล้ว เพราะถ้าหยุดวันเสาร์-อาทิตย์ หรือมาทำไม่ได้ ก็จะโดนว่า ว่าไม่มีความรับผิดชอบ อาจจะถูกตัดสวัสดิการด้านอื่นที่ควรได้รับจากนายจ้างได้ ซึ่งค่าแรงทำงานวันหยุดทั้งเสาร์-อาทิตย์ ดิฉันคิดว่าดิฉันได้ค่าจ้างวันหยุดเพียงแรงเดียว และถ้าวันหยุดประจำปีมาทำงานก็ได้ค่าจ้างเป็นเงินเดือน+เงินทำงานวันหยุด1แรง คือว่าดิฉันได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน (แล้วบุคคลบอกว่าค่าแรงวันเสาร์-อาทิตย์ +เงินเดือนก็เป็นสองแรง) แต่เด็กรายวันจะได้สองแรงจริงๆๆ คือถ้าเด็กรายวันได้ค่าแรงวันละ100 บาท วันอาทิตย์ก็ได้สองแรง คือได้ 200 บาท
ดิฉันสงสัยว่าดิฉันได้รับความเป็นธรรมจากนายจ้างหรือไม่ ในเรื่องเวลาพัก และค่าจ้างในวันหยุด นายจ้างให้ค่าจ้างแบบนี้นายจ้างทำถูกหรือไม่
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
กรณีตามปัญหาของท่านในฐานะที่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทเอกชนผลิตอาหาร ซึ่งเป็นนายจ้าง ย่อมเป็นเรื่องการโต้แย้งสิทธิและหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งเป็นบทบัญญัติอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ในอันที่จะให้ความคุ้มครองแก่บุคคลซึ่งเป็นพนักงานหรือลูกจ้าง ซึ่งมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ด้อยกว่าบริษัท หรือนายจ้าง และเป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานได้กำหนดให้นายจ้างต้องปฏิบัติต่อลูกจ้าง ดั่งที่ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ได้บัญญัติกำหนดไว้
1) ในเรื่องกำหนดเวลาพัก
ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ได้กำหนดให้ในวันที่ทำการทำงาน ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพักระหว่างการทำงานวันหนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง หลังจากที่ลูกจ้างทำงานมาแล้วไม่เกิน 5 ชั่วโมงติดต่อกัน นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้า ให้มีเวลาพักครั้งหนึ่งน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง ตามความใน มาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ดังนั้น การที่ท่านได้มีเวลาพักโดยที่ทางบริษัทนายจ้างได้จัดให่ท่านมีเวลาพักเบรควันหนึ่งเพียง 15 นาที ซึ่งเป็นกำหนดเวลาพักวันหนึ่งที่บริษัทได้กำหนดให้ ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ตามที่กฎหมายกำหนดและเป็นกรณีที่บริษัทไม่ได้ปฏิบัติต่อลูกจ้างให้ถูกต้องตามกฎหมาย ท่านย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้บริษัทปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยการกำหนดเวลาให้ท่านมีเวลาพักระหว่างการทำงานวันหนึ่งไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง หลังจากที่ท่านทำงานแล้วไม่เกิน 5 ชั่วโมงติดต่อกัน
2) เรื่องค่าจ้างในวันหยุด
หากท่านได้ทำงานในวันหยุดเสาร์, อาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ และทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปี โดยที่นายจ้างได้ให้ท่านทำงานในวันหยุดดังกล่าว ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานได้กำหนดให้บริษัทนายจ้างต้องจ่ายค่าทำงานในวันหยุดดังกล่าวให้แก่ท่านซึ่งเป็นลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด คือ ลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน ในอัตราที่เพิ่มขึ้นจากค่าจ้างอีกไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงทีทำตามความใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 62
อนึ่ง ด้วยเหตุผลตามหลักกฎหมายดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้ท่านได้รับค่าทำงานในวันหยุดดังกล่าวที่น้อยกว่ากรณีที่เป็นลูกจ้างซึ่งไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด คือ ลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างเป็นรายวัน ซึ่งกฎหมายได้กำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างนั้น ในอัตราไม่น้อยกว่าสองเท่าของอัตราค่าจ้างชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
มาตรา 27 ในวันที่มีการทำงาน ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพักระหว่างการทำงานวันหนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ลูกจ้างทำงานมาแล้วไม่เกินห้าชั่วโมงติดต่อกัน นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้าให้มีเวลาพักครั้งหนึ่งน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงได้ แต่เมื่อรวมกันแล้ววันหนึ่งต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง
ในกรณีที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันกำหนดเวลาพักระหว่างการทำงานตามวรรคหนึ่งเป็นอย่างอื่น ถ้าข้อตกลงนั้นเป็นประโยชน์แก่ลูกจ้าง ให้ข้อตกลงนั้นใช้บังคับได้
เวลาพักระหว่างการทำงานไม่ให้นับรวมเป็นเวลาทำงาน เว้นแต่เวลาพักที่รวมกันแล้วในวันหนึ่งเกินสองชั่วโมง ให้นับเวลาที่เกินสองชั่วโมงนั้นเป็นเวลาทำงานปกติ
ในกรณีที่มีการทำงานล่วงเวลาต่อจากเวลาทำงานปกติไม่น้อยกว่าสองชั่วโมง นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพักไม่น้อยกว่ายี่สิบนาทีก่อนที่ลูกจ้างเริ่มทำงานล่วงเวลา
ความในวรรคหนึ่งและวรรคสี่มิให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ลูกจ้างทำงานที่มีลักษณะ หรือสภาพของงานต้องทำติดต่อกันไปโดยได้รับความยินยอมจากลูกจ้างหรือเป็นงานฉุกเฉิน
มาตรา 62 ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานในวันหยุดตามมาตรา 28 มาตรา 29 หรือมาตรา 30 ให้นายจ้างจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างในอัตรา ดังต่อไปนี้
(1) สำหรับลูกจ้างซึ่งมีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด ให้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าจ้างอีกไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำหรือไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
(2) สำหรับลูกจ้างซึ่งไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด ให้จ่ายไม่น้อยกว่าสองเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ หรือไม่น้อยกว่าสองเท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย