งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ
ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ
สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ
รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ
ตรวจประวัติอาชญากรรมก่อนเข้าทำงาน
เนื่องจากต้องเข้าไปเซ็นสัญญาสมัครงาน แต่ทางบริษัทให้ไปตรวจอาชญากรรม ซึ่งเมื่อก่อนหน้านั้นได้มีคดีความขึ้นศาล โดนเพื่อนแกล้งแจ้งความหาว่าบุกรุกไปที่ทำงานเขา และทำร้ายร่างกาย ซึ่งเพื่อนที่ไปด้วยกันหนีหายไม่ยอมไปเป็นพยานให้ ซึ่งศาลพิพากษาให้รอลงอาญา 2 ปี อย่างนี้ถ้าไปตรวจอาชญากรรม จะถือว่าผ่านหรือไม่ค่ะ ผลจะแจ้งออกมาว่าอย่างไร แล้วจะมีผลต่อการรับเข้าทำงานหรือไม่ค่ะ
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
กรณีตามปัญหาของท่าน ซึ่งท่านเคยถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลในความผิดฐานบุกรุกเคหสถานและทำร้ายร่างกาย โดยศาลได้มีคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ดังนี้ คำพิพากษาของศาลดังกล่าว ท่านจึงยังไม่ได้รับโทษให้จำคุกจริง ๆ เพียงแต่ศาลรอการลงโทษไว้ มีกำหนด 2 ปี ซึ่งหากท่านไม่ได้กระทำความผิดใดขึ้นภายในระยะเวลาดังกล่าว ท่านก็ไม่ต้องรับโทษสำหรับการกระทำความผิดนั้นอีก แต่ความผิดของท่านดังกล่าว ย่อมมีบันทึกเป็นประวัติอาชญากรรมตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไว้เป็นหลักฐานข้อมูลเพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมต่อไปได้ ซึ่งท่านก็ย่อมไม่มหลุดพ้นจากทะเบียนประวัติดังกล่าว
ซึ่งหากทางบริษัทตรวจสอบประวัติของท่านตามทะเบียนประวัติอาชญากรรมกับ สตช.แล้ว ทาง สตช.ก็จะแจ้งผลที่ท่านเคยถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญา และศาลมีคำพิพากษาให้รอการลงโทษท่านมีกำหนด 2 ปี ตามความเป็นจริง และจะมีผลต่อการรับท่านเข้าทำงานหรือไม่นั้น กรณีก็ย่อมเป็นดุลยพินิจของบริษัทที่ท่านสมัครงาน ว่าเป็นสาระสำคัญแห่งคุณสมบัติของพนักงานหรือไม่ แต่โดยบริษัทส่วนใหญ่แล้ว หากเป็นกรณีที่ผู้สมัครเข้าทำงานไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก โดยไม่ใช่เป็นโทษสำหรับความที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษแต่อย่างใดแล้ว ถือว่ายังไม่ขาดคุณสมบัติของการรับสมัครเข้าเป็นพนักงาน