ดิฉันทำงานที่สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง เป็นสัญญาจ้างรายปี
บทความวันที่ 25 มี.ค. 2553, 00:00
มีผู้อ่านทั้งหมด 17224 ครั้ง
ถูกเลิกจ้างเพราะเคยมีประวัติอาชญากรรม
ดิฉันทำงานที่สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง เป็นสัญญาจ้างรายปี เข้าทำงานเมื่อเดือนธันวาคม 52 จนถึงเดือนมีนาคม 53 ทางฝ่าย hr ได้แจ้งกับดิฉันว่า ไม่สามารถจ้างดิฉันต่อได้เนื่องจากว่าตรวจสอบในประวัติแล้ว ดิฉันเคยมีประวัติอาชญากรรม ข้อหาฉ้อโกงประชาชน มีโทษจำคุก แต่เนื่องจากไม่เคยทำผิดจึงรอลงอาญา และตอนนี้คดีเสร็จสิ้นแล้ว แต่ทางสถาบันการเงินที่ทำงานอยู่แจ้งว่า ในสัญญาระบุว่าลูกจ้างต้องไม่เคยมีคดีโทษจำคุก หากตรวจสอบพบต้องถูกให้ออกจากงาน ซึ่งระบุในสัญญาต่อท้าย แต่ดิฉันสงสัยว่า ในการสอบเป็นตัวแทนประกัน ดิฉันสามารถสอบและได้รับใบอนุญาติตัวแทนแล้ว ซึ่งคุณสมบัติของตัวแทนก็ระบุเหมือนกันว่า ไม่เคยต้องโทษจำคุกในคดีอาญาเช่นฉ้อโกง
แต่ดิฉันทำไมถึงได้รับใบอนุญาต แต่กลับต้องถูกไล่ออกจากงานเพราะเหตุนี้ ดิฉันควรทำอย่างไรต่อไปดี
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
ตามที่สัญญาจ้างได้ระบุข้อสัญญาว่า "ลูกจ้างต้องไม่มีคดีโทษจำคุก และหากตรวจสอบพบต้องถูกให้ออกจากงาน" เพราะฉะนั้น เมื่อคุณเคยมีคดีโทษจำคุกในฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน แต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ แม้คุณจะรับโทษจำคุก จริง ๆ ก็ตาม สถาบันการเงินนายจ้างจึงมีสิทธิเลิกจ้างคุณตามสัญญาจ้างนั้นได้ แต่ทางสถาบันการเงิน จะต้องให้ค่าชดเชยตามกฎหมายแก่คุณ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 118 นั้นด้วย เพราะการที่ศาลได้พิพากษาลงโทษ ถึงที่สุดให้จำคุกจริง ๆ เนื่องจากการเลิกจ้างที่นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้าง ซึ่งเลิกจ้างในกรณีที่ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกนั้น จะต้องเป็นกรณีที่ลูกจ้างได้รับโทษจำคุกจริง ๆ ในขณะที่เป็นลูกจ้าง ไม่ใช่การรอการลงโทษจำคุก
ฉะนั้น กรณีจึงไม่เหมือนกับการที่คุณได้รับใบอนุญาตให้เป็นตัวแทนประกัน ที่ได้ระบุคุณสมบุติไว้ว่า "ไม่เคยต้องโทษจำคุก" เพราะตามคุณสมบัติดังกล่าว เมื่อศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุก แต่หากศาลให้รอการลงโทษไว้ กรณีจึงเท่ากับคุณไม่เคนได้รับโทษจำคุก จริง ๆ จึงเป็นเหตุที่ทำให้คุณได้รับใบอนุญาตดังกล่าว และไม่ขาดคุณสมบัติในข้อดังกล่าวนั้น
