สมัยนี้คงไม่มีใครปฏิเสธโลกของสื่อสังคมออนไลน์ มาแรงแซงทางโค้งจริงๆ เมื่อสมัยสัก 10

บทความวันที่ 3 พ.ย. 2560, 11:04

มีผู้อ่านทั้งหมด 2465 ครั้ง

สังคมออนไลน์

    สมัยนี้คงไม่มีใครปฏิเสธโลกของสื่อสังคมออนไลน์   มาแรงแซงทางโค้งจริงๆ เมื่อสมัยสัก 10 ปีย้อนหลัง โลกออนไลน์ยังไม่แพร่หลายมากนัก  คนที่ติดโลกออนไลน์ในช่วงนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น ติดเกมส์บ้างอะไรบ้าง  พ่อแม่เห็นลูกๆ นั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือก็ทั้งบ่นทั้งด่า ถึงขนาดไล่ออกจากบ้านตัดแม่ตัดลูกกันเลย ตอนนี้คงพูดไม่ออกแล้วล่ะคะ  ไปด่าว่าใครเขาไม่ได้แล้ว เพราะไปทางไหนก็เจอแต่สังคมก้มหน้า  นั่งติดกันยังแชทผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆคุยกันเลย เหลือเชื่อ ! โลกเปลี่ยนไปมากจริงๆ ไม่หยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดูแค่นาทีเดียว ก็ตามเพื่อนๆไม่ทันแล้ว การใช้สื่อสังคมออนไลน์ มีทั้งคุณประโยชน์ และโทษมหันต์ ถ้าคุณหลงใหลมัน สื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลต่างๆที่ รู้จักมีมากมาย แล้วแต่ว่าเราจะเลือกใช้ หรือถนัดแบบไหน  หลายคนใช้สังคมออนไลน์ในการทำมากินจนร่ำรวย  หลายคนก็ถูกหลอกหมดเนื้อหมดตัว วันนี้ดิฉันจะมาเล่าเครสที่เกิดจากประสบการณ์จริงในการทำงานอาชีพนักสืบ ท่านที่รักทั้งหลายอ่านแล้ว ก็ต้องคิดนะคะว่าคุณกำลังอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วยหรือเปล่า  เครสที่ 1 เป็นชายหนุ่มวิศวกรอายุประมาณ 35 ปี มีหน้าที่การงานที่ดี ทำงานจนสามารถเก็บเงินได้เป็นหลักล้านบาท วันหนึ่งได้รู้จักสาวสวยผ่านเฟสบุ๊ค ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แซวกันไปแซวกันมาหน้าเฟสบุ๊ค  จู่ๆสาวก็ทักเข้ามาที่ inbox บอกว่าชอบพี่จัง  นานมาแล้วไม่เคยได้ยินคำนี้จากใครมาก่อน รู้สึกเคลิ้มกับคำพูด หลังจากนั้นก็แชทกันมาเรื่อย จนสาวเอ่ยปากว่าต้องการเงินสักก้อนเพื่อไปรักษาตัว หนุ่มใจดีก็โอนเงินให้  ต่อมาสาวก็บอกอีกว่าตอนนี้บ้านจะถูกยึด สงสารแม่ไม่มีที่อยู่ ต้องการเงินไปไถ่ถอนบ้านให้แม่ หนุ่มเห็นว่าเป็นลูกกตัญญู สเปคเลย ก็โอนเงินให้อีก ทุกครั้งที่สาวบอกยืมเงินไปทำธุระโน้นนี่นั่น หนุ่มไม่เคยปฏิเสธเลย  คบกันทางเฟสบุ๊คมาได้ประมาณ 3 เดือน หนุ่มอยากเจอหน้าสาว จึงขอนัดพบแต่สาวเจ้าบอกว่าไม่สะดวกตอนนี้ บ่ายเบี่ยงปฏิเสธเรื่อยมา จังหวะกับที่หนุ่มต้องการจะใช้เงินก้อนขึ้นมา จึงเอ๋ยปากสอบถามเธอ คราวนี้เธอเริ่มตีตัวออกห่างทันที แชทไปก็ไม่ตอบ ทำให้หนุ่มกังวลมากติดต่อทางอื่นก็ไม่ได้เพราะเธอไม่เคยให้ข้อมูลอะไรเลย หนุ่มคิดได้มีเลขที่บัญชีและชื่อที่โอนเงินไป จึงไปตรวจสอบได้ข้อมูลมา ติดต่อไปปรากฎว่าเจ้าของบัญชีที่โอนเงินไปนั้นไม่ใช่สาวคนที่แชทด้วย   แต่เป็นเพื่อนของเธอ เพื่อนเธอให้ข้อมูลหนุ่มว่า  คนที่ใช้บัญชีเป็นเพี่อนกัน เธอมาขอยืมเลขบัญชี บอกว่าจะมีโอนเงินมาให้ แต่ไม่ได้ถามเงินนั้นมาจากไหน ค่าอะไร ทุกครั้งที่มีเงินโอนเข้ามา ก็จะกดเงินแล้วนำไปให้เพื่อนที่บ้าน ก็งงเหมือนกันว่าเธอไม่ทำงานแต่ทำไมมีเงินโอนเข้าบ่อย ครั้งละหลายหมื่นบาท หนุ่มพอทราบเรื่องแบบนั้นแทบเป็นลม วิ่งมาหานักสืบกุ้ง เพื่อให้ไปสืบหาข้อมูลให้ เธอเป็นใครกันแน่ ดิฉันได้ข้อมูลชื่อ–สกุล ภาพถ่ายตามเฟสบุ๊ค ก็เดินทางไปบ้านเกิดเธอที่ต่างจังหวัดทันที ไปตามหาน้องสาวคนสวยในภาพให้หนุ่มวิศวกร ไปถึงหมู่บ้านดังกล่าวพบผู้ใหญ่บ้าน ชี้ทางให้ไปบ้านหลังหนึ่ง พบหญิงสูงอายุนั่งอยู่หน้าบ้าน บ้าน 2 ชั้นเป็นลักษณะชั้นล่างเป็นปูน ชั้นสองเป็นไม้ค่อนข้างเก่า หญิงสูงวัยให้ข้อมูลคนที่ถามถึงชื่อนื้คือลูกสาวตัวเอง ลูดสาวอายุเกือบ 40 ปีแล้วตกงานมานาน ไม่ได้ออกไปทำงานที่ไหน วันๆอยู่แต่ในห้อง ก็มีเงินทองมาใช้บ้าง พอถามลูกสาวก็บอกแม่ไม่ต้องถาม เดี๋ยวหาเงินให้ใช้ ไม่รู้มาก่อนเลยว่าลูกสาวจะไปหลอกเอาเงินคนอื่นเค้ามา  ภาพถ่ายที่ให้ดูไม่ใช่ภาพลูกสาวตน เพราะลูกสาวจะอ้วนๆดำๆ ไม่สวย  พอแม่รู้แบบนี้ก็เริ่มเครียดละค่ะ เกรงลูกจะถูกดำเนินคดีแต่ถ้าจะให้หาเงินมาคืนให้คงไม่มีปัญญาเพราะเงินเกือบล้านบาท บ้านก็ยังติดจำนองที่ธนาคารเพื่อการเกษตรอยู่เลย แม่นั่งน้ำตาไหล ดิฉันลากลับ เพราะหมดหน้าที่ เข้าจ้างมาเพื่อสืบหาข้อมูลเท่านั้น ที่เหลือก็เป็นเรื่องของหนุ่มวิศวกร ละค่ะจะทำอย่างไรต่อ 
    เครสที่ 2 นี่ก็เป็นเรื่องของหนุ่มไทยใจดีอีกคน  สถิติคนไทยปริมาณชายน้อยกว่าหญิงจริงหรือเปล่า  ทำไมชายหลายคนหาแฟนไม่ได้ ไม่นับเพศที่ 3 นะ เกย์ ตุ๊ด แต๋ว กระเทย ชายบางคนเป็นเพราะเรื่องมาก หรือเลือกเยอะ หญิงไหนเข้ามาไม่มีใครถูกใจเลย ติโน้นนี่นั่น ไม่เลือกเขาหรือเขาไม่เลือกก็ไม่รู้นะ หนุ่มคนที่ 2 นี้ ก็มีหน้าที่การงานที่ดี เจอหญิงสาวในเฟสบุ๊คเช่นกัน เห็นเธอหน้าตาดี จีบซะเลยตอนแรกว่าจะเล่นๆ แต่สาวเธอเอาจริง แชทกันได้ประมาณ 1 เดือนนัดเจอกัน คนนี้สวยจริงตามรูปโปรไฟล์ วันแรกเจอกันก็นอนกันซะแล้ว เธอออดอ้อนเก่ง อยากได้อะไรก็ให้  ตกลงใจกันว่าจะเช่าห้องพักอยู่ด้วยกันเป็นเรื่องเป็นราวเลย ไหนๆก็ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว เอ้ยไม่ใช่ซิผัวเมียกันแล้ว  แต่เธอไม่ค่อยมานอนค้างด้วยอ้างต้องไปนอนกับป้า ดูแลป้าที่ป่วยอยู่  “บางทีผมก็ช่วยเรื่องรักษาพยาบาลไปด้วยเพราะเขาไม่มีเงินเลย ”  ระยะหลังเริ่มต้องการใช้เงินมากขึ้น ไม่ค่อยรับโทรศัพท์  วันหยุดไม่เคยอยู่ด้วยกันเลย ผมจริงใจทุกอย่าง ปฏิบัติกับเธอเป็นภรรยา  ป้าที่อ้างว่าป่วยอยู่เธอไม่เคยพาไปเยี่ยม ขอแต่เงินไปรักษา ไม่สบายใจอยากรู้ความจริงว่าถูกหลอกหรือไม่ เห็นนักสืบกุ้งโพสต์เตือนบ่อยแต่ไม่อยากจะคิดว่าตัวเองจะถูกหลอก ถ้าไม่เห็นกับตา ล่าสุด “ผมก็ชวนเธอไปพักผ่อนต่างจังหวัดด้วยกัน เธอบอกไม่ได้หรอกต้องพาป้าไปหมอ ” ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ยอมเสียเงินจ้างนักสืบกุ้งดีกว่า เพื่อความสบายใจ เมื่อเป็นเช่นนี้จะรอช้าอยู่ใย พรุ่งนี้เริ่มงานเลยค่า เสาร์อาทิตย์พอดี เราเริ่มจากที่บ้านของเธอที่อ้างว่าเป็นบ้านป้า  ทีมงานไปเฝ้าแต่เช้า เห็นคนออกมายืนใส่บาตรหลายคนพร้อมหญิงแก่ที่นั่งรถเข็นด้วย เธอยืนได้แต่เดินไม่คล่อง  มีเด็กชายหญิงวัยประมาณ 9-10 ขวบ วิ่งเลิ่นหน้าบ้านด้วย  แต่ไม่มีเธอ หรือว่าจะผิดบ้าน  คนที่เห็นออกมาจากบ้านจะใช่ป้าของเธอหรือไม่ ไม่มีใครรู้ได้เพราะไม่มีภาพถ่ายไม่มีข้อมูล ได้แต่เฝ้ากันต่อไป จนพระเดินกลับวัด คนเข้าบ้านกันหมดก็ไม่มีวี่แววเธอเลย เวลาผ่านจนกระทั่ง 10 โมงเช้า เห็นประตูบ้านเปิดกว้างออก มีคนหลายคนเดินไปมา พร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาคล้ายคนในรูปที่ดิฉันถืออยู่ นั่นไงใช่เลยเป้าหมาย มีเด็กชายหญิงสองคนที่เห็นเมื่อช่วงเช้ามืด เรียกเธอมาแม่  มีชายหนุ่มวัยเดียวกับเธอเดินมาเพื่อขึ้นขับรถออกมา เด็กเรียกว่าพ่อ และมีหญิงแก่นั่งรถเข็นขึ้นไปด้วย   เราต้องตามไปค่ะ เพื่อความอยากรู้ เอ้ย..เพื่อต้องการข้อมูล  เราตามไปจนถึงทะเลชายหาดบางแสน ชายจอดรถ ทุกคนลงจากรถไปหาที่นั่งในร่มอันใหญ่ที่มีไว้บริการนักท่องเที่ยว ขนข้าวของอาหารลงจากรถ ปักหลักนั่งกินลมชวิวกันเลย เราก็หาที่นั่งบ้างเอาที่ใกล้สุด  หาจังหวะจะสืบว่าคนที่มาด้วยกับหล่อนเป็นใครกันบ้าง เรื่องรูปไม่มีปัญหาสถานที่แบบนี้ใครๆเขาก็ถ่ายกัน เราจะยกกล้องหรือโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปไม่มีใครสนใจ  ระหว่างนั้นเด็กวิ่งเล่นอยู่ หาทางตีสนิทซะเลย ไปวิ่งกับเด็กหาข้อมูลได้ความว่า หญิงแก่ที่มาด้วยคือย่า ชายหญิงคู่นั้นคือ พ่อกับแม่ พักอยู่กับพ่อและย่า แม่ไปทำงานต่างจังหวัดกลับบ้านเฉพาะวันหยุด   งานเข้าละซิสงสัยผู้ว่าจ้างจะถูกเธอต้มซะสุกเลย  ได้ข้อมูลเรียบร้อยแล้วตัวใครตัวมัน ตามสบายเลยจร้า กลับกรุงเทพดีกว่า เรานำข้อมูลมาบอกชายหนุ่มที่ว่าจ้าง คำแรกที่ได้ยิน  “ อีตอแหลไปทำงานต่างจังหวัด ที่ไหนมันมานอนกับกูคอนโดหน้าปากซอยบ้านมันนั่นแหล่ะ” สรุปจบไปอีกเครส ยังไม่หมดนะคะ ฉบับหน้าอ่านต่อเรื่องสังคมออนไลน์ตอนที่ 2 อีกค่ะ นึกอะไรไม่ออกบอกนักสืบกุ้งได้ค่ะ !