อ้างว่าเคยเป็นเจ้าพนักงานไม่เป็นการแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 145|อ้างว่าเคยเป็นเจ้าพนักงานไม่เป็นการแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 145

อ้างว่าเคยเป็นเจ้าพนักงานไม่เป็นการแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 145

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

อ้างว่าเคยเป็นเจ้าพนักงานไม่เป็นการแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 145

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3431-3433/2526

บทความวันที่ 10 มี.ค. 2566, 10:05

มีผู้อ่านทั้งหมด 542 ครั้ง


อ้างว่าเคยเป็นเจ้าพนักงานไม่เป็นการแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 145
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3431-3433/2526

    จำเลยถือใบกระท่อมร่วมไปกับคณะที่ไปข่มขู่เรียกเงินโดยแต่งกายธรรมดา สวมรองเท้าแตะและพูดว่าตนเคยเป็นเจ้าหน้าที่ ขณะที่กระทำผิดนี้จำเลยมิได้แอบอ้างหรือแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงาน ไม่ผิดมาตรานี้ จำเลยทั้งสองกับพวกพากันไปที่ บ้าน ว.อ้างเป็นตำรวจพกปืนบ้าง ถือกิ่งพืชกระท่อมบ้าง กล่าวหาว่า ว. มีพืชกระท่อมจะจับกุมและทำบันทึกการจับกุมแล้วพูดว่าหากไม่ต้องการถูกจับกุมให้เสียเงิน ว.ไม่มีพืชกระท่อม แต่กลัวการข่มขู่ของจำเลยจึงจ่ายเงินให้จำเลยแล้ว จำเลยที่ 1 ก็พกปืนโดยมีจำเลยที่ 2 ถือพืชกระท่อมไปข่มขู่เรียกเอาเงินจาก ท. และ ส. ซึ่งอยู่ห่างบ้าน ว. 15 วา และ 1 เส้น ตามลำดับ โดยวิธีข่มขู่ทำนองเดียวกันเรียกให้บุคคลทั้งสองให้หาเงินส่งให้จำเลยที่บ้าน ว. เมื่อได้เงินแล้วก็กลับไปพร้อมกัน ดังนี้ แม้จะใช้วิธีเดียวกันแต่จำเลยกระทำต่อผู้เสียหายต่างราย ต่างสถานที่และต่างเวลา แสดงว่าจำเลยมีเจตนาแยกการกระทำของตนเป็นหลายกรรมต่างกัน ถือว่ากระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรม จำเลยที่ 1 เป็นตำรวจมีความผิดตามมาตรา 148 และ 337 ลงโทษตามมาตรา 148 ซึ่งเป็นบทหนักสุด รวม 3 กระทง ส่วนจำเลยที่ 2 เป็น ราษฎรมีความผิดตามมาตรา 148 ประกอบด้วยมาตรา 86 และ 337 ลงโทษตามมาตรา 148, 86 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด รวม 3 กระทง
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
    มาตรา 145
 ผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    เจ้าพนักงานผู้ใดได้รับคำสั่งมิให้ปฏิบัติการตามตำแหน่งหน้าที่ต่อไปแล้ว
ยังฝ่าฝืนกระทำการใด ๆ ในตำแหน่งหน้าที่นั้น ต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้ในวรรคแรกดุจกัน
#ทนายคลายทุกข์ #แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน #แอบอ้าง #แสดงตนเป็นอดีตเจ้าพนักงาน
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470, 081-6252161 

 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก