นำข้อความ ภาพเคลื่อนไหวและเสียงการสนทนาไปลงในเฟซบุ๊ค ไม่ระบุชื่อ หากจะเป็นการหมิ่นประมาทหรือไม่ต้องสืบเสาะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2565
ข้อความกับภาพเคลื่อนไหวและเสียงการสนทนาที่จำเลยลงในเฟซบุ๊กของจำเลยไม่มีข้อความใดเลยที่ระบุชื่อและชื่อสกุลจริงของโจทก์ร่วมหรือมีข้อความใดที่พอจะให้ทราบได้ว่าเป็นโจทก์ร่วม หากบุคคลทั่วไปต้องการรู้ความหมายว่าเป็นผู้ใดก็ต้องสืบเสาะค้นหาเพิ่มเติม และไม่แน่ใจว่าหลังจากสืบเสาะค้นหาเพิ่มเติมแล้ว จะเป็นตัวโจทก์ร่วมจริงหรือไม่ การที่ อ.นำข้อความกับภาพเคลื่อนไหวและเสียงการสนทนาที่จำเลยลงในเฟซบุ๊คมารวมเข้าด้วยกันแล้วสรุปว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ร่วม เป็นเพียงความเข้าใจของ อ. หาใช่เป็นความเข้าใจของบุคคลทั่วไปไม่ ลำพังเพียงข้อความกับภาพเคลื่อนไหวและเสียงการสนทนาที่ปรากฎในเฟซบุ๊กของจำเลยไม่เป็นข้อความที่จะเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ร่วมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และมาตรา 328
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์ร่วมเสียค่าขึ้นศาลตามคำร้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 เฉพาะส่วนทุนทรัพย์ที่เกินกว่า 1,000,000 บาท โจทก์ร่วมอุทธรณ์และฎีกาของให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วม 400,000 บาท ไม่ปรากฎว่าโจทก์ร่วมเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนสูงเกินควรหรือดำเนินคดีโดยไม่สุจริตดังนี้ โจทก์ร่วมไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 253 วรรคหนึ่ง
#ทนายคลายทุกข์ #หมิ่นประมาท #ทนายเดชา #หลักการเรียกค่าเสียหาย
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470, 081-6252161