ผู้ที่อ้างป้องกัน หากพ้นจากภยันตรายแล้ว ยังโต้ตอบกลับผู้ประทุษร้าย ไม่อาจอ้างว่าเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ถือว่าสมัครใจเข้าวิวาท อ้างป้องกันไม่ได้
คำพิพากษาฎีกาที่ 10271/2555
เมื่อผู้ตายถือท่อนเหล็กไล่ตีจำเลยมาถึงหน้าจำเลย จำเลยหนีเข้าไปในห้องและปิดประตูไว้ได้ ผู้ตายจึงใช้มือเคาะประตูอย่างแรงอันเป็นทำนองท้าทายชวนวิวาท ดังนั้น เมื่อจำเลยปิดประตูห้องไว้ได้แล้วและข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าผู้ตายจะพังประตูห้องจำเลยเข้ามา หากจำเลยไม่สมัครใจที่จะวิวาทหรือต่อสู้กับผู้ตายจำเลยก็ชอบที่จะไม่ตอบโต้หรือเปิดประตูห้องอีก แต่จำเลยกลับพูดว่า ถ้าเปิดประตูจะแทงนะแล้วจำเลยได้เปิดประตูห้องพร้อมถืออาวุธมีดด้วย แสดงว่าจำเลยสมัครใจเข้าวิวาทและต่อสู้กับผู้ตายและเข้าสู่ภัยโดยไม่มีกฎหมายให้อำนาจ การที่จำเลยแทงผู้ตายจึงไม่อาจอ้างว่าเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 68 ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด
มาตรา 69 ในกรณีที่บัญญัติไว้ในมาตรา 67 และมาตรา 68 นั้น ถ้าผู้กระทำได้กระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็น หรือเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ แต่ถ้าการกระทำนั้นเกิดขึ้นจากความตื่นเต้น ความตกใจ หรือความกลัว ศาลจะไม่ลงโทษผู้กระทำก็ได้
#ทนายคลายทุกข์ #ป้องกัน #สมัครใจวิวาท #ภยันตราย
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470, 081-6252161