อำนาจการฟ้องคดีของผู้ถือหุ้น ดูจากฐานะการเป็นผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ ไม่ใช่พิจารณาจากการส่งใช้เงินค่าหุ้น|อำนาจการฟ้องคดีของผู้ถือหุ้น ดูจากฐานะการเป็นผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ ไม่ใช่พิจารณาจากการส่งใช้เงินค่าหุ้น

อำนาจการฟ้องคดีของผู้ถือหุ้น ดูจากฐานะการเป็นผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ ไม่ใช่พิจารณาจากการส่งใช้เงินค่าหุ้น

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

อำนาจการฟ้องคดีของผู้ถือหุ้น ดูจากฐานะการเป็นผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ ไม่ใช่พิจารณาจากการส่งใช้เงินค่าหุ้น

  • Defalut Image

ถ้ากรรมการทำให้เกิดเสียหายแก่บริษัท บริษัทจะฟ้องร้องเรียกเอาสินไหมทดแทนแก่กรรมการก็ได้

บทความวันที่ 20 ก.ค. 2563, 09:47

มีผู้อ่านทั้งหมด 1103 ครั้ง


อำนาจการฟ้องคดีของผู้ถือหุ้น ดูจากฐานะการเป็นผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ ไม่ใช่พิจารณาจากการส่งใช้เงินค่าหุ้น

คำพิพากษาฎีกาที่ 4661/2562
    ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1169 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ถ้ากรรมการทำให้เกิดเสียหายแก่บริษัท บริษัทจะฟ้องร้องเรียกเอาสินไหมทดแทนแก่กรรมการก็ได้ หรือในกรณีที่บริษัทไม่ยอมฟ้องร้อง ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งคนใดจะเอาคดีนั้นขึ้นว่าก็ได้ เช่นนี้การเป็นผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิเรียกให้กรรมการบริษัทรับผิดในกรณีนี้ย่อมต้องพิจารณาจากฐานะการเป็นผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ มิใช่พิจารณาจากการส่งใช้เงินค่าหุ้นอันเป็นกระบวนการในการรวบรวมทุนของบริษัทอีกส่วนหนึ่งซึ่งเมื่อผู้ถือหุ้นยังส่งใช้เงินหุ้นครบถ้วนย่อมเป็นหน้าที่ของกรรมการบริษัทที่จะดำเนินการเรียกให้ผู้ถือหุ้นส่งใช้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1120 และมาตรา 1121 เมื่อโจทก์ทั้งสองมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ป. ไม่ว่าการถือหุ้นดังกล่าวจะได้มีการส่งใช้เงินค่าหุ้นครบถ้วนหรือไม่โจทก์ทั้งสองย่อมมีอำนาจฟ้องให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 รับผิดในฐานะที่เป็นกรรมการทำให้เสียหายแก่บริษัทตามมาตรา 1169 วรรคหนึ่ง ได้ แต่สำหรับจำเลยที่ 3 เป็นบุคคลภายนอกมิใช่กรรมการบริษัท ป. จำกัด แม้โจทก์ทั้งสองจะอ้างว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท ป. ยักยอกเงินของบริษัทไปเป็นประโยชน์ส่วนตนอันเป็นการละเมิดต่อบริษัท ป. ก็ตาม แต่ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้สิทธิผู้ถือหุ้นฟ้องแทนบริษัทในกรณีนี้ได้ คำฟ้องโจทก์ทั้งสองเป็นการอาศัยสิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัทมาก้าวล่วงฟ้องร้องคดีเพื่อบังคับบุคคลภายนอกบริษัทซึ่งไม่อาจกระทำได้เพราะไม่ต้องด้วยมาตรา 1169 โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีอำนาจ

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
    มาตรา 1120
  บรรดาเงินค่าหุ้นซึ่งยังจะต้องส่งอีกนั้น กรรมการจะเรียกให้ผู้ถือหุ้นส่งใช้เสียเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่ที่ประชุมใหญ่จะได้วินิจฉัยเป็นอย่างอื่น
    มาตรา 1121  การเรียกเงินค่าหุ้นแต่ละคราวนั้น ท่านบังคับว่าให้ส่งคำบอกกล่าวล่วงหน้าไม่ต่ำกว่ายี่สิบเอ็ดวันด้วยจดหมายส่งลงทะเบียนไปรษณีย์ และผู้ถือหุ้นทุกคนจะต้องใช้เงินตามจำนวนที่เรียกนั้น สุดแต่กรรมการจะได้กำหนดไปว่าให้ส่งไปยังผู้ใด ณ ที่ใดและเวลาใด
    มาตรา 1169  ถ้ากรรมการทำให้เกิดเสียหายแก่บริษัท ๆ จะฟ้องร้องเรียกเอาสินไหมทดแทนแก่กรรมการก็ได้ หรือในกรณีที่บริษัทไม่ยอมฟ้องร้อง ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งคนใดจะเอาคดีนั้นขึ้นว่าก็ได้
    อนึ่ง การเรียกร้องเช่นนี้ เจ้าหนี้ของบริษัทจะเป็นผู้เรียกบังคับก็ได้ เท่าที่เจ้าหนี้ยังคงมีสิทธิเรียกร้องแก่บริษัทอยู่

ที่มา : หนังสือรวมคำบรรยายภาค 1 สมัยที่ 73 ปี พ.ศ.2563 เล่ม 1

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก