ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นในดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทน ที่เกิดขึ้นภายหลังพ้นกำหนด 60 วัน
1. คำพิพากษาฎีกาที่ 3847/2562
หนังสือบอกล่าวที่โจทก์ส่งไปยังจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ผู้ค้ำประกันระบุว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกหนี้ชั้นต้นมียอดหนี้จำนวนเงินค้างชำระและยังมิได้ชำระหนี้ ขอให้ไปชำระหนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นหนังสือบอกล่าวซึ่งมีข้อความที่แจ้งว่าลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ เข้าลักษณะเป็นหนังสือบอกกล่าวตามความมุ่งหมายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 686 วรรคหนึ่ง ซึ่งกฎหมายได้กำหนดรูปแบบข้อความหนังสือบอกกล่าวไว้อย่างชัดเจน
จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 มิได้รับหนังสือบอกกล่าวที่โจทก์ส่งให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันภายใน 60 วันนับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ผิดนัดจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดในดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทนตลอดจนค่าภาระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้รายนั้นบรรดาที่เกิดขึ้นภายหลังเมื่อหลุดพ้นกำหนดเวลาแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 686 วรรคสอง โจทก์คงเรียกให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ชำระต้นเงินและดอกเบี้ยที่คิดได้เพียง 60 วัน นับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ผิดนัด
2. คำพิพากษาฎีกาที่ 3263/2562
หนังสือบอกกล่าวของโจทก์ได้ไปถึงจําเลย ที่ 2 ผู้ค้ำประกันภายหลังเวลาที่พ้นกําหนด 60 วัน นับแต่จําเลยที่ 1 ลูกหนี้ชั้นต้นผิดนัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 686 วรรคหนึ่ง จําเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันจึงหลุดพ้นจากความผิดในดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทน ตลอดจนค่าภาระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้บรรดาที่เกิดขึ้นภายหลังจากพ้นกําหนดเวลา 60 วัน ตามมาตรา 686 วรรคสอง จําเลยที่ 2 ต้องรับผิดในดอกเบี้ยต้นเงินจํากัดเฉพาะช่วงเวลา 60 วัน นับแต่จําเลยที่ 1 ลูกหนี้ชั้นต้นผิดนัด
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 686 เมื่อลูกหนี้ผิดนัด ให้เจ้าหนี้มีหนังสือบอกกล่าวไปยังผู้ค้ำประกันภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัด และไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดเจ้าหนี้จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ก่อนที่หนังสือบอกกล่าวจะไปถึงผู้ค้ำประกันมิได้ แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ค้ำประกันที่จะชำระหนี้เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระ
ในกรณีที่เจ้าหนี้มิได้มีหนังสือบอกกล่าวภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดในดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทน ตลอดจนค่าภาระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้รายนั้นบรรดาที่เกิดขึ้นภายหลังจากพ้นกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง
เมื่อเจ้าหนี้มีสิทธิเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้หรือผู้ค้ำประกันมีสิทธิชำระหนี้ได้ตามวรรคหนึ่ง ผู้ค้ำประกันอาจชำระหนี้ทั้งหมดหรือใช้สิทธิชำระหนี้ตามเงื่อนไขและวิธีการในการชำระหนี้ที่ลูกหนี้มีอยู่กับเจ้าหนี้ก่อนการผิดนัดชำระหนี้ ทั้งนี้ เฉพาะในส่วนที่ตนต้องรับผิดก็ได้ และให้นำความในมาตรา 701 วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ในระหว่างที่ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ตามเงื่อนไขและวิธีการในการชำระหนี้ของลูกหนี้ตามวรรคสาม เจ้าหนี้จะเรียกดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเพราะเหตุที่ลูกหนี้ผิดนัดในระหว่างนั้นมิได้
การชำระหนี้ของผู้ค้ำประกันตามมาตรานี้ ไม่กระทบกระเทือนสิทธิของผู้ค้ำประกันตามมาตรา 693
ที่มา : หนังสือรวมคำบรรยายภาค 1 สมัยที่ 73 ปี พ.ศ.2563 เล่ม 1