ผู้ค้ำประกัน ต้องรับผิดในหนี้ค่าราคารถยนต์ กรณีที่ผู้เช่าซื้อส่งคืนรถไม่ได้
กรณีที่ผู้เช่าซื้อผิดสัญญาเช่าซื้อ ไฟแนนซ์มีหน้าที่ต้องบอกกล่าวให้ผู้ค้ำประกันทราบว่าผู้เช่าซื้อได้ผิดนัดแล้ว หากไม่บอกกล่าวจะทำให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นความรับผิด แต่หากบอกกล่าวแล้วผู้ค้ำประกันต้องรับผิดในหนี้นั้นตามสัญญาเช่าซื้อ และหากทำสัญญาเช่าซื้อและสัญญาค้ำประกันก่อนกฎหมายแก้ไข ผู้ค้ำประกันยังรับผิดเช่นเดียวกับลูกหนี้ร่วมกับผู้เช่าซื้อได้
คำพิพากษาฎีกาที่ 2881/2562
จำเลยที่ 1 ผิดนัดชำระหนี้ โจทก์ได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาแล้วจำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์ ภาระชำระหนี้รับผิดตามสัญญาค้ำประกันจึงเกิดขึ้นแล้วในเวลาดังกล่าว ซึ่งก็รวมถึงหนี้ที่จะเกิดหากจำเลยที่ 1 ไม่สามารถคืนรถยนต์ที่เช่าซื้อก็ให้ใช้ราคาแทนที่เป็นกรณีหนี้ที่เป็นเงื่อนไขสืบต่อเนื่องมา และเป็นหนี้ในตัวรถยนต์ที่เช่าซื้อโดยตรง อันถือเป็นหนี้ประธานเช่นเดียวกัน หาใช่เป็นหนี้อุปกรณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ดอกเบี้ย ค่าสินไหมทดแทน หรือค่าภาระติดพัน จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงต้องรับผิด หาได้หลุดพ้นจากความรับผิดจากการที่โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวถึงจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่เป็นไปตามป.พ.พ. มาตรา 686 วรรคสองแต่อย่างใด และเมื่อปรากฎว่าสัญญาเช่าซื้อและสัญญาค้ำประกันทำขึ้นเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555 อันเป็นวันก่อนที่จะมีการเพิ่มเติมตามมาตรา 681/1 ตามพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 20) พ.ศ. 2557 และมาตรา 18 พระราชบัญญัติดังกล่าวบัญญัติไว้ว่า "ไม่กระทบกระเทือนถึงสัญญาที่ได้ทำไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ" จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงยังต้องรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมตามข้อสัญญา