รถทางเอกชนรถทางโท ถึงแม้รถที่ออกมาจากทางโทประมาท แต่ถ้ารถทางเอกไม่ชะลอความเร็ว ก็ถือว่ามีส่วนประมาท|รถทางเอกชนรถทางโท ถึงแม้รถที่ออกมาจากทางโทประมาท แต่ถ้ารถทางเอกไม่ชะลอความเร็ว ก็ถือว่ามีส่วนประมาท

รถทางเอกชนรถทางโท ถึงแม้รถที่ออกมาจากทางโทประมาท แต่ถ้ารถทางเอกไม่ชะลอความเร็ว ก็ถือว่ามีส่วนประมาท

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

รถทางเอกชนรถทางโท ถึงแม้รถที่ออกมาจากทางโทประมาท แต่ถ้ารถทางเอกไม่ชะลอความเร็ว ก็ถือว่ามีส่วนประมาท

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1171/2544

บทความวันที่ 3 พ.ย. 2562, 11:01

มีผู้อ่านทั้งหมด 5951 ครั้ง


รถทางเอกชนรถทางโท ถึงแม้รถที่ออกมาจากทางโทประมาท แต่ถ้ารถทางเอกไม่ชะลอความเร็ว ก็ถือว่ามีส่วนประมาท

1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1171/2544
           แม้จำเลยที่ 1 ขับรถมาในทางโทโดยไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรคือ หยุดรถดูความปลอดภัยตามสัญญาณป้ายจราจรก่อนที่ขับผ่านเข้าไปในสี่แยก จำเลยที่ 2 ซึ่งขับรถมาในทางเอกก็ต้องชะลอรถลงแล้วดูความปลอดภัยก่อนด้วยเช่นกัน การที่จำเลยที่ 2 ขับรถไปชนบริเวณล้อหลังด้านขวาของรถคันที่จำเลยที่ 1 ขับมาแม้ชนแล้วรถบรรทุกสิบล้อยังแล่นต่อไปอีกเป็นระยะทางยาวถึง 7 เมตร แสดงว่าจำเลยที่ 2 ขับรถมาด้วยความเร็วสูงจนไม่อาจหยุดรถทัน ไม่มีการชะลอก่อนถึงสี่แยกที่เกิดเหตุ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการกระทำโดยประมาท

2.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5248/2559
          ถนนที่จำเลยขับรถมาเป็นทางเดินรถทางโท มีสัญญาณจราจรไฟกระพริบสีแดงและป้ายเตือนให้หยุด ติดไว้ก่อนเข้าทางร่วมทางแยก จำเลยต้องหยุดรถก่อนถึงทางร่วมทางแยก หลังเส้นให้หยุดรถและให้ผู้ขับรถในทางเอกขับผ่านไปก่อน เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรแล้วจึงจะขับรถต่อไปได้ด้วยความระมัดระวัง ส่วนโจทก์ขับรถมาในทางเอกแม้จะมีสิทธิขับรถผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน แต่ก็ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 70 โดยต้องลดความเร็วของรถ เมื่อขับรถเข้าใกล้ทางร่วมทางแยก สภาพความเสียหายของรถโจทก์ได้รับความเสียหายอย่างมากอันเกิดจากการชนโดยแรง และตามแผนที่แสดงสถานที่เกิดเหตุ รถยนต์โจทก์อยู่ห่างจากจุดชนประมาณ 35 เมตร แสดงว่าโจทก์ขับรถมาด้วยความเร็วและไม่ได้ชะลอความเร็วของรถ เมื่อเข้าใกล้ทางร่วมทางแยก เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เกิดเหตุรถชนกันโจทก์จึงมีส่วนประมาทอยู่ด้วย

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 59
วรรคสี่ 
กระทำโดยประมาท ได้แก่กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 3

ไม่ได้เลี้ยวจะตรงไปแต่ผิดที่ว่าเขามาทางเอกพ่อผมไปทางโทครับ

โดยคุณ แพงสี มาศงามเมือง 18 เม.ย. 2565, 21:05

ความคิดเห็นที่ 2

คือเรื่องมีอยู่ว่าพ่อของผมขับรถจะไปอำเภอ พอถึงสี่แยกพ่อผมมองซ้าย ขวา 

เห็นรถอยู่ไกล ก็เลยขับข้ามไป แต่ไม่พ้นเพราะรถคู่กรณีขับมาเร็วเลยได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ทั้งที่มีด่านลดความเร็วก็ไม่ลดแบบนี้พ่อผมยังผิดอีกใช้ไหมครับ



โดยคุณ แพงสี มาศงามเมือง 18 เม.ย. 2565, 21:01

ความคิดเห็นที่ 1

กำลังออกจากซอย(จะเลี้ยวไปทางซ้าย)หน้ารถโผล่นิดหน่อยมองเห็นว่าจักรยานยนต์ขับมาทางด้านขวาจึงหยุดแต่จักรยานยนต์ที่กำลังขับมาหันหน้าไปมองข้างทางจึงทำให้มาชนไฟหน้าด้านขวาของรถอยากทราบว่าใครผิดคะ

โดยคุณ นิตยา 9 ต.ค. 2563, 10:50

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก