ดิฉันและสามีอยู่กินกันโดยไม่ได้แต่งงาน 3 ปี ซึ่งตอนนี้สามีดิฉันอาการค่อนข้างแย่มาก

บทความวันที่ 22 ก.พ. 2554, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 17722 ครั้ง

ภรรยาไม่จดทะเบียนหากสามีตายจะมีสิทธิ์อะไรบ้าง

           ดิฉันและสามีอยู่กินกันโดยไม่ได้แต่งงาน 3 ปี  ซึ่งตอนนี้สามีดิฉันอาการค่อนข้างแย่มาก มีโรคประจำตัวและมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ  และเราอยู่กันเป็นสามีและภรรยาโดยไม่ได้แต่งงาน  ดิฉันต้องทำงานในกรุงเทพ และไปกลับเช้าเย็น ส่วนเขาต้องทำงานต่างจังหวัดและต้องอยู่ประจำที่นั้นตลอด แต่บริษัทให้เขาทำงานได้อยู่  และเราอยู่โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส( เช็กแล้วแฟนไม่เคยจดทะเบียนสมรสซ้อนกับใคร) ไม่มีลูกกับใคร    เขาเคยมีภรรยา  แต่ก็ไม่เคยได้จดทะเบียนหรือแต่งงานกันเลย และเล่าให้ฟังว่าเลิกกันไปแล้ว และไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรด้วยอีกเลย
           ซึ่งผ่านมาประมาณ 2 ปี และก็มามีดิฉัน ซึ่งดิฉันเข้าใจอยู่แล้วว่าเป็นโรคอะไร แต่ไม่ได้รังเกียจ และเขาก็บอกฉันคือคนที่เข้าใจเขามาก คือเราอยู่ด้วยใจให้กำลังใจกันมากกว่า ตอนนี้ดิฉันมีคำถามคะ  ในขณะที่ฉันอยู่กับเขา ไม่มีญาติเขามาเยี่ยมอะไรเลย เขาบอกเขามีพี่น้อง แต่ไม่ค่อยไปมาหาสู่ ได้แต่โทรคุยกันบ้างนาน ๆ ครั้ง   และไม่เคยมาดูแลด้วย (เขาและญาติไม่ค่อยถูกกัน และอีกทั้งเขาไม่ใช่คนพื้นที่นั้นที่เขาไปทำงานอยู่ด้วย)  จะมีก็แต่คนละแวกนั้นที่เขาเคยพาฉันไปแนะนำว่าเป็นภรรยาเขา  ซึ่งดิฉันต้องการทราบว่ากรณีนี้หากเกิดการสูญเสียเขาไป  ดิฉันมีสิทธิไปจัดการทุกสิ่ง ทุกอย่าง ตั้งแต่การจัดงานให้เขา  หรือสิ่งของต่าง ๆ ในบ้านที่ฉันและเขาอยู่ได้หรือไม่  (ส่วนใหญ่มีแต่พระเครื่อง เงินทองก็มีแต่กองทุนที่เขาทำไว้กับบริษัท เงินเก็บไม่มี  มีบ้านให้เขาเช่า)ช่วยแนะนำด้วยคะ  ควรจะทำอย่างไร และต้องหาหลักฐานอะไรไปยืนยัน

คำแนะนำสำนักงานทนายความ  ทนายคลายทุกข์
           1. เมื่อท่านกับสามีไม่จดทะเบียนสมรส จึงไม่เป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย
           2. ทรัพย์สินใดก็ตาม หากท่านและสามีทำมาหาได้ร่วมกันในระหว่างอยู่กินกันฉันสามีภรรยา ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างท่านกับสามี ต่างมีส่วนด้วยกันกึ่งหนึ่งเท่ากันฐานะเป็นเจ้าของร่วม ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1356,1357
          3. แม้ว่าท่านจะไม่ใช่ภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่หากสามีตาย ท่านในฐานะที่เป็นเจ้าของรวมในทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันกับสามี ย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสียในอันที่จะยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของสามีต่อศาล เพื่อดำเนินการจัดการทรัพย์มรดกต่อไปได้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1713,1719

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1356  ถ้าทรัพย์สินเป็นของบุคคลหลายคนรวมกัน ท่านให้ใช้บทบัญญัติในหมวดนี้บังคับ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น

มาตรา 1357  ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้เป็นเจ้าของรวมกันมีส่วนเท่ากัน

มาตรา 1713  ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการจะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกก็ได้ ในกรณีดั่งต่อไปนี้
(1)  เมื่อเจ้ามรดกตาย ทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรมได้สูญหายไป หรืออยู่นอกราชอาณาเขต หรือเป็นผู้เยาว์
(2)  เมื่อผู้จัดการมรดกหรือทายาทไม่สามารถ หรือไม่เต็มใจที่จะจัดการ หรือมีเหตุขัดข้องในการจัดการ หรือในการแบ่งปันมรดก
(3)  เมื่อข้อกำหนดพินัยกรรมซึ่งตั้งผู้จัดการมรดกไว้ไม่มีผลบังคับได้ด้วยประการใด ๆ
การตั้งผู้จัดการมรดกนั้น ถ้ามีข้อกำหนดพินัยกรรมก็ให้ศาลตั้งตามข้อกำหนดพินัยกรรม และถ้าไม่มีข้อกำหนดพินัยกรรม ก็ให้ศาลตั้งเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกตามพฤติการณ์และโดยคำนึงถึงเจตนาของเจ้ามรดก แล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร

มาตรา 1719  ผู้จัดการมรดกมีสิทธิและหน้าที่ที่จะทำการอันจำเป็น เพื่อให้การเป็นไปตามคำสั่งแจ้งชัดหรือโดยปริยายแห่งพินัยกรรม และเพื่อจัดการมรดกโดยทั่วไปหรือเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดก