กรณีที่ผู้ชายมีความสัมพันธ์กับหญิงที่มีสามีแล้ว
บทความวันที่ 14 ธ.ค. 2552, 00:00
มีผู้อ่านทั้งหมด 11736 ครั้ง
มือที่สาม/ชู้
กรณีที่ผู้ชายมีความสัมพันธ์กับหญิงที่มีสามีแล้ว แต่ไม่ทราบมาก่อนว่าจดทะเบียนสมรสหรือไม่ จะมีความผิดไหมเมื่อถูกฟ้อง เข้าข่ายเป็นชู้หรือไม่และกรณีที่ฝ่ายสามีเกิดความหึงหวง ภรรยา และทำร้ายร่างกายชายมือที่สาม ในขณะที่กำลังมีความสัมพันธ์กับภรรยาตนอยู่ หรือมีพฤติกรรมให้น่าหึงหวง จะมีความผิดเบาลงกว่ากรณีทำร้ายร่างกายตามปกติหรือไม่
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
กรณีที่ผู้ชาย ไปมีความสัมพันธ์กับหญิงที่มีสามีแล้ว จะมีความผิดฐานเป็นชู้เมื่อถูกฟ้องหรือไม่นั้น กรณีต้องแยกพิจารณาว่า หญิงที่มีผู้ชายไปมีความสัมพันธ์นั้น เขามีสามีโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ (กล่าวคือ หญิงที่มีสามีนั้นได้จดทะเบียนสมรสกับสามี ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1457 หรือไม่)
ถ้าหากปรากฏว่า หญิงมีสามีนั้น ได้จดทะเบียนสมรสกับสามี หญิงคนนั้นกับสามีก็เป็นสามีภรรยากัโดยชอบด้วยกฎหมาย หากฝ่ายผู้ชายไปมีความสัมพันธ์กับหญิงนั้น ก็เข้าข่ายเป็นชู้ ซึ่งทางนิตินัยแล้ว ย่อมถือว่าเป็นการผิดศีลธรรม จารีตประเพณี หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยศีลธรรมอันดีของประชาชน และถือเป็นการละเมิดสิทธิโดยธรรมของสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้นด้วย และผู้ชายนั้นมีความผิดอาจถูกสามีหญิงนั้นด้วย และผู้ชายนั้นมีความผิดอาจถูกสามีหญิงนั้น ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ชาย ซึ่งเป็นชู้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1523 แม้ฝ่ายผู้ชาย จะไม่ทราบมาก่อนว่า หญิงมีสามีได้จดทะเบียนสมรสกันหรือไม่ก็ตาม
แต่ถ้าหากเป็นกรณีที่หญิงมีสามีนั้น ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสามี หญิงนั้นก็ไม่ได้เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของสามีนั้น แม้ผู้ชายจะไปมีความสัมพันธ์กับหญิงนั้นก็ตาม ตามกฎหมายหรือตามนิตินัยแล้ว ถือไม่ได้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นชู้กับหญิงนั้น แม้ตามความรู้สึกนึกคิดของวิญญูชน หรือความรู้สึกของคนทั่วไปแล้ว การที่ผู้ชายไปมีความสัมพันธ์กับหญิงที่มีความสัมพันธ์กับหญิงที่มีสามี จะเข้าข่ายของการเป็นชู้ก็ตามแต่ก็เป็นการกระทำที่ผิดในแง่ของศีลธรรมและจารีตประเพณีเท่านั้น แต่ในทางกฎหมายแล้ว สามีของหญิงไม่อาจที่จะดำเนินแก่ผู้ชาย ฐานเป็นชู้กับภริยาตนได้แต่อย่างใด เพราะสามีและหญิงนั้น ไม่ได้เป็นสามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย กฎหมายจึงไม่ได้ให้สิทธิแต่สามีไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในอันที่จะฟ้องผู้ชายฐานเป็นชู้ได้
ส่วนกรณีที่ฝ่ายสามีเกิดความหึงหวงภรรยา และเข้าทำร้ายร่างกายชายมือที่ 3 ในขณะที่กำลังมีความสัมพันธ์กับภรรยาตนอยู่ หรือมีพฤติกรรมให้น่าหึงหวง ถือว่าเป็นกรณีที่สามีได้กระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายชายมือที่ 3 แต่การกระทำของสามีนั้น ได้เกิดขึ้นโดยการบันดาลโทสะ อันเกิดจากเหตุชายมือที่ 3 ได้มีความสัมพันธ์กับภรรยาหรือมีพฤติกรรมให้น่าหึงหวง ซึ่งตามกฎหมายถือว่า สามีได้ถูกชายมือที่ 3 ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม สามีจึงกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายต่อชายมือที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ข่มเหงในขณะนั้น เพราะฉะนั้น ศาลจะลงโทษสามีน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดฐานทำร้ายร่างกายมือที่ 3 เพียงใดก็ได้ ตาม ป.อ. มาตรา 72
ดังนั้น กรณีที่ฝ่ายสามี ทำร้ายร่างกายชายมือที่ 3 ในขณะนั้นที่กำลังมีความสัมพันธ์กับภรรยาตนอยู่ หรือมีพฤติกรรมให้น่าหึงหวง จึงมีความผิดเบาลงกว่า กรณีทำร้ายร่างกายตามปกติ ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1457 การสมรสตามประมวลกฎหมายนี้จะมีได้เฉพาะเมื่อได้จดทะเบียนแล้วเท่านั้น
มาตรา 1523 เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุตามมาตรา 1516 (1) ภริยาหรือสามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากสามีหรือภริยาและจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้น
สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้
ถ้าสามีหรือภริยายินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำการตามมาตรา 1516 (1) หรือให้ผู้อื่นกระทำการตามวรรคสอง สามีหรือภริยานั้นจะเรียกค่าทดแทนไม่ได้
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 72 ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
