ดิฉันเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งค่ะ เป็นหนี้บัตรเครดิตของบริษัท

บทความวันที่ 17 มี.ค. 2553, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 53973 ครั้ง

พนักงานทวงหนี้ทวงกับบุคคลที่สาม/รุกรานที่ทำงาน

 
          ดิฉันเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งค่ะ เป็นหนี้บัตรเครดิตของบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ อยู่ตอนนี้  ประมาณ 12,261.41 บาท เมื่อประมาณเดือนกันยายน ปี ที่แล้ว 2552 ดิฉันได้รับโทรศัพท์ติดตามถามเรื่องหนี้สินที่ค้างชำระไว้กับทางบริษัทอิออน ดิฉันได้เจรจาขอผ่อนปรนระยะเวลาการชำระคืน  เนื่องจาก ตอนนั้นเป็นช่วงที่ดิฉันเพิ่งได้งานใหม่  หลังจากที่ตกงานอยู่ปีกว่า  ต้องกลับไปอยู่ต่างจังหวัดที่บ้านแล้ว  กลับมาพักที่กรุงเทพ ภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนจึงสูง และยังมีภาระค่าใช้จ่ายให้ทางบ้านด้วย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ยังไม่ผ่านการทดลองงาน จึงยังไม่วางใจว่าจะผ่านหรือไม่  เพราะถ้าไม่ผ่าน  ก็ต้องตกงานอีกถ้าหางานใหม่มาสำรองไม่ทัน ก็เลยขอเค้ายืดเวลาออกไปอีก ก็ตกลงกันเข้าใจค่ะ
           จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 53 ได้รับจดหมายส่งมาที่ทำงาน เป็นจดหมายทวงหนี้จากสำนักงานกฎหมายที่รับงานจากอิออน  ข้อความขอให้ชำระหนี้ภายใน 3 วัน นับจากวันที่ลงหนังสือ หากเค้าไม่ได้รับการติดต่อจะดำเนินการจนถึงที่สุด ดิฉันจึงติดต่อกลับไปเพื่อคิดว่าจะเจรจาขอต่อรองชำระหนี้  ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ติดต่อไปตามชื่อและเบอร์โทรตามจดหมาย ชื่อคุณป. เบอร์โทร 02-6929988 ต่อ 539 , 083-8054873, 082-0526267
          เมื่อโทรไปเพื่อขอเจรจาชำระหนี้ และขอร้องว่าไม่ให้ส่งจดหมายไปที่ทำงาน ให้ติดต่อเราที่บ้านหรือโทรเข้ามือถือแทนได้มั้ย แต่ทางเค้าตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปด้วยว่า.... แล้วยังไงล่ะ คุณมาขอให้ผมไม่ส่งจดหมายไปที่ทำงานเพื่อคุณจะได้ไม่ต้องใช้หนี้รึไง ผมจะส่งมันอยู่นี่แหละจนกว่าคุณใช้หนี้! ดิฉันจึงบอกไปว่าก็โทรมานี่เพื่อที่จะขอชำระหนี้ แต่แค่ขอร้องว่าอย่าส่งจดหมายมาที่ทำงานได้มั้ยเท่านั้นเอง
           จากนั้นเค้าก็ไม่ฟังแล้วค่ะ พูดต่อว่าวกไปวนมาประโยคซ้ำกันแต่เพิ่มความรุนแรงขึ้น....แล้วยังไง แล้วยังไง จะเอายังไงล่ะ โทรมาทางผมติดต่อไปเมื่อปีที่แล้วคุณก็ไม่จ่าย..จนเนี่ย  ตอนนี้จะมาไม่ให้ผมส่งจดหมายมาที่ทำงานเพื่อจะไม่ให้จ่ายงั้นเหรอ!! ..ก็ดิฉันโทรมาเพื่อจะเจรจานี่ไง จะขอจ่าย..แต่เค้าก็ยังพูดประโยคเดิม แต่เพิ่มน้ำเสียงให้ดุดันขึ้น...ประโยคที่พูดกันก็ยังเถียงกันไปเถียงกันมาด้วยลักษณะเดิม สรุปวันนั้นดิฉันไม่ได้ข้อตกลงค่ะ วางหูใส่เค้าไปซะก่อนเพราะ ด้วยความที่พูดอะไรแล้วเค้าไม่ฟัง ตกลงกันไม่รู้เรื่อง
            ดิฉันจึงโทรไปที่ สำนักงานของบริษัทกฎหมายนี้ กับเจ้าหน้าที่คนอื่น ชื่อ บ.  เบอร์โทร 082-0556793  ก็ตกลงด้วยดี  ดิฉันขอให้เค้าลดหย่อนจากยอดเต็มได้มั้ย  เนื่องจากกำลังจ่ายเราด้วยก็ไม่ไหว จึงรอเค้าเช็คกับทางอิออน เค้าลดให้เหลือ 10000 บาท (ในวันที่ 4 มีนาคม) ดิฉันก็คิดว่าถ้าจ่ายตอนนี้ตามยอดจำนวนนี้ คงลำบากแน่(แต่ถ้า ณ วันนั้นวันที่ 26 กุมภา ถ้าได้ตกลงกันได้แล้วชำระดิฉันก็ยอมจ่ายไปแล้วและ เรื่องก็คงจบไปแล้วถ้าได้พูดจากันดีๆ)  ประกอบกับด้วยเนื่องจาก ดิฉันมาเจอปัญหา เรื่องงานที่ทำงานในเดือนมีนาคมนี้ด้วย ซึ่งอาจจะมีผลให้ดิฉันต้องออกงานอีกรอบเพราะทำงานไม่สำเร็จตามอย่างที่เจ้านายคาดหวัง (ซึ่งนี่มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวในส่วนของที่ทำงานก็จริง) แต่ขอเรียนตามตรงว่า ก็มีผลกับการหนี้สินเรื่องนี้ด้วย
           ดิฉันจึงตอบกลับเค้าไปว่า ขอคิดดูก่อนว่าจะเอายังไง ก็บอกเค้าไปตามตรงว่าเงินยังไม่พอ พร้อมกับไม่แน่ใจกับสถานการณ์เรื่องงานของเราด้วย  จนวันที่ 12 มีนาคม ดิฉันต้องไปปฎิบัติงานที่ต่างจังหวัดที่สระบุรี ได้รับโทรศัพท์ จาก บริษัทกฎหมายนี้ที่ office อีก กับเจ้าหน้าที่คนแรก โทรมาพูดพร้อมกับคำพูดด้วยน้ำเสียงต่อว่า เรื่องหนี้สินดิฉันขอให้เค้าอย่าโทรมาที่ทำงาน เค้าก็ตอบกลับว่า...จะไม่จ่ายรึยังไง ทำไมจะโทรมาจนกว่าจะจ่ายเนี่ยแหละ ..แล้วดิฉันก็วางหูไป เค้าก็โทรมาอีก พร้อมกับพูดจาไม่ดีกับผู้ร่วมงานของดิฉันด้วย
          มีเพื่อน operator ที่รับสาย บอกว่า เค้าพูดให้ฟังว่าเราเป็นหนี้เค้าอยู่แล้วไม่ยอมจ่าย  เค้าจะมาโทรมาอยู่อย่างงี้แหละ แล้วก็ขู่ว่าจะมาหาที่ทำงานด้วย พร้อมกับพูดต่อว่า วกไปวนมากับประโยคเดิม  แต่ด้วยน้ำเสียงที่เพิ่มความโกรธมากขึ้น เค้าโทรมาประมาณ 3-4 ครั้งได้ค่ะ เพื่อนร่วมงานคนที่รับโทรศัพท์ รู้สึกแย่มากที่อยู่ดีๆ ก็ โดนใครไม่รู้โทรมาแบบนี้ แล้วก็พูดจาทำนองหาเรื่องเค้าอีกด้วย  ดิฉันได้ไกล่เกลี่ยกับเพื่อนไปเบื้องต้น อธิบายให้เค้าเข้าใจแล้ว  แต่ดิฉันไม่แน่ใจว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานกฎหมายคนนี้จะมาทำอะไรต่ออีก
           ขอเรียนตามตรงนะคะว่า ใน วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่โทรไปมีความประสงค์ จะจ่ายหนี้คืนเค้าจริงๆค่ะ แต่ตามที่เล่าให้ฟังคือ พูดกันไม่รู้เรื่อง ทำให้ ยืดเยื้อมาเดือนนี้ มีนาคม จนกลางเดือนนี้ ซี่งเดือนนี้ดิฉันกลับมามีปัญหาเรื่องงาน ประกอบกับโดนทวงหนี้แบบนี้ด้วย ตอนนี้ดิฉันยื่นใบลาออกแล้วค่ะ ก็ยังไม่สามารถชำระหนี้ให้เค้าตอนนี้อีก  แต่ก็ยังมีความประสงค์ที่จะชำระให้เค้าอยู่จริงๆ แต่เพียงต้องรอให้พร้อมมีเงินมาคืนก่อน 3 เดือน คิดว่าได้ค่ะ ถึงแม้ว่าดิฉันจะไม่ได้ทำงานที่บริษัทนี้แล้วเดือนหน้า แต่อย่างไร ทางเพื่อนร่วมงานก็ได้รับความเสียหายอยู่ดี
           จึงอยากขอคำแนะนำอาจารย์เดชา ได้มั้ยคะ ดิฉันควรดำเนินการอย่างไรดี และก็ตอนนี้ ยอมรับว่าหลอนกับบริษัททวงหนี้ นี้มากค่ะ เรากลุ้มใจเรื่องอนาคต งานการของเราอยู่แล้วกับต้องเจอทวงหนี้แบบนี้อีก

คำแนะนำทนายคลายทุกข์         
1.  ให้ร้องเรียน ธปท. ฝ่ายกำกับและตรวจสอบสถาบันการเงิน  โทร.02-283-5710, 02-283-6466  เนื่องจากฝ่าฝืนประกาศ ธปท. ฉบับลงวันที่ 3 สิงหาคม 2551 
2.  ให้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนข้อหาหมิ่นประมาท ตาม ป.อ. มาตรา 326
3.  หากทำไม่ได้เข้ามาพบ อ.เดชา  ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ โทร.02-9485700  โดยสามารถนัดหมายเพื่อเข้าพบ อ.เดชา ได้ที่คุณศุภานัน

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ