เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 พ.ย.63 ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ น.ส.พิมพ์จุฑา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผู้เสียหาย จากเหตุการณ์ที่ถูกชายวัย 40 ปี ขับรถกระบะไล่ตามจะเข้าหมู่บ้านด้วย แต่ผู้เสียหายจอดรถที่ป้อมร้องขอความช่วยเหลือจาก รปภ. พร้อมกับโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชายคนดังกล่าวฉุนจัด ขับรถชนท้าย ก่อนจะหลบหนีไปเมิ่อกลางดึกที่ผ่านมา จนครอบครัวผู้เสียหายได้นำคลิปเหตุการณ์ที่ถ่ายไว้ลงโพสต์หาเบาะแสรถกระบะของชายหนุ่มที่ก่อเหตุดังกล่าว

โดยเหตุการณ์ในคลิปที่ผู้เสียหายถ่ายไว้ได้จากด้านในรถ พบว่าชายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว สวมกางเกงขายาวสีดำ คาดแว่นสีดำบนศีรษะ ยืนท้าวเอวอยู่ในป้อม รปภ.จากนั้นก็เดินออกมาที่รถผู้เสียหาย เคาะกระจกรถหลายครั้งและพยายามเปิดประตู เมื่อเห็นผู้เสียหายถ่ายวิดีโอคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไป ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพคนร้ายสวมเสื้อยืดสีขาวยืนจับที่เปิดประตูรถเพื่อพยายามจะเปิด จากนั้นได้หันมามีปากเสียงกับ รปภ.ที่พยายามเข้ามาห้ามปราม แต่ชายคนดังกล่าวยังพยายามเคาะกระจกรถและดึงประตูให้เปิด จนเมื่อชะโงกหน้าไปดูในรถเห็นผู้เสียหายกำลังถ่ายคลิปอยู่ จึงเปลี่ยนใจเดินกลับไปที่รถและขับรถหลบหนีไป

น.ส.พิมพ์จุฑา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผูเสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดประมาณ 01.20 น.วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่ตนเองเลิกงาน ไปรับหลานสาวที่ซ้อมเทควันโดเพื่อจะกลับมาบ้านพักในหมู่บ้านดังกล่าว ขณะที่ตนเองขับรถกระบะยี่ห้อมิซูบิชิ รุ่นไททัน สีดำ มาตามถนนกาญจนาภิเษก ในช่องทางซ้ายสุด ถึงช่วงสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์นั้น มีรถกระบะสี่ประตูยี่ห้ออิซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ขับแซงขวาขึ้นไป โดยตนสังเกตเห็นว่าประตูรถกระบะฝั่งคนนั่งด้านหน้าเปิดออกประมาณ 45 องศา บางครั้งก็เปิดจน 90 องศา ตนจึงเรียกให้หลานดู จากนั้นรถคันดังกล่าวได้ขับเลี้ยวมาจอดหน้าปากซอยศรีประวัติ มีผู้ชายลงมาจากฝั่งคนนั่งแต่ไม่ปิดประตู และมีผู้ชายที่นั่งด้านหลังลงมาอีกคน เพื่อมาโบกรถตนให้แซงไป

ตนขับเข้าซอยมาตามปกติจนกระทั่งเมื่อถึงกลางซอย รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับตามหลังรถตนมา ซึ่งตนได้เปิดไฟให้แซงไป แต่รถกระบะไม่แซง กลับเปิดไฟสูงใส่รถตน ตนจึงพยายามเร่งความเร็วหนีมา จนกระทั่งมาถึงหน้าหมู่บ้าน ตนก็เรียกให้ รปภ.ที่อยู่ในป้อมออกมาช่วย เพราะรถกระบะคันดังกล่าวขับตามท้ายรถตนมา แต่ระหว่างที่ตนกำลังขอความช่วยเหลือจาก รปภ.อยู่นั้น ชายคนดัวกล่าวก็ลงจากลงมา แล้วอ้างกับ รปภ.ว่ารู้จักกับตน มากับตน ซึ่งตนไม่รู้จักจึงบอก รปภ.ไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชายคนดังกล่าวไม่พอใจจึงกลับเข้าไปที่รถพร้อมกับกดแตรแช่ จากนั้นจึงขยับรถให้มาชนท้ายรถของตนและพยายามจะขับดันรถตนให้เดินหน้า ตนจึงจอดรถขวางไว้หน้าหมู่บ้านไม่ให้เขาขับตามไปได้พร้อมกับโทรแจ้งตำรวจ จากนั้นชายคนดังกล่าว จึงลงมาจากรถมาเคาะกระจกรถตนอีกครั้ง พร้อมกับพยายามจะเปิดประตูรถ เพื่อเจะให้ตนลงจากรถให้ได้ จากนั้นจึงหันไปมีปากเสียงกับ รปภ.ที่พยายามเข้ามาช่วยห้าม จนกระทั่งเมิ่อชายคนดังกล่าวก้มมามองตนแล้วเห็นตนถ่ายคลิปไว้ จึงเปลี่ยนใจกลับไปที่รถแล้วขับรถหลบหนีไป

น.ส.พิทพ์จุฑา กล่าสอีกว่า หลังจากคนดังกล่าวขับรถออกไป จากนั้นอีกประมาณ 10 นาที ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปเข้าแจ้งความเพื่อให้ติดตามชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดีเพราะไม่รู้วัตถุประสงค์ว่า เขาต้องการอะไรจึงกล้าก่อเหตุ

ตนยอมรับว่า หลังเหตุการณ์ทำให้เครียดและวิตกกังวลกับการเดินทางกลับบ้านในยามค่ำคืนไปเลย ไม่รู้ว่าถ้าตนตัดสินใจลงจากรถไปเจรจาด้วยจะเกิดอะไรขึ้น ฝากเตือนผู้หญิงที่ขับรถคนเดียว หรือมากับเด็ก ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่าลงจากรถเด็ดขาด น่ากลัวมากตนก็ตกใจ ถ้าลงไปไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร

ทางด้านนายภูมิพิชัย สงวนยศ อายุ 54 ปี รปภ. ที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า หลังจากรถทั้งสองคันมาจอด ผู้เสียหายบอกกับตนว่ารถคันดังกล่าวไม่ใช่เพื่อนของเขา เขาไม่รู้จักมาก่อน ตนจึงเดินเข้าไปถามคนขับรถกระบะ แต่ชายคนดังกล่าวก็ยังพยายามอ้างว่ามาด้วยกัน โดยมีลักษณะคล้ายคนเมาและพร้อมจะหาเรื่อง พร้อมกับโวยวายว่าไม่คุยกับตนจะคุยจะคุยกับหัวหน้า รปภ.ซึ่งตนก็บอกว่าตนเข้าเวรอยู่รับผิดชอบเวลานี้ จากนั้นก็ขึ้นรถไปบีบแตรเสียงดังและขับรถชนท้ายรถผู้เสียหายหลังจากนั้นก็ขับรถหลบหนีไป ตนไม่เคยเห็นรถคันนี้มาก่อน ไม่ใช่ลูกบ้านที่ดูแลอย่างแน่นอน ตนจึงให้ผู้เสียหายจอดรถขวางไม้กั้นเอาไว้เพราะเกรงว่าหากตนเอาไม่ทัน แล้วชายคนดัวกล่าวขับตามเข้าหมู่บ้านไปได้จะเกิดปัญหาตามมาแน่ๆ

https://pd99club.com/