ความคิดเห็นที่ 1

การซื้อขายที่ดิน

     ถ้าเจรจาตกลงกันชัดเจนว่าจะมีการซื้อขายที่ดิน  ไม่ต้องทำสัญญากันเองก็ได้  แต่ต้องไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์  ณ สำนักงานที่ดินที่ดินตั้งอยู่ ต้องนำโฉนดที่ดิน ฉบับจริงไปด้วย(และเอกสารประจำตัวทั้งสองฝ่ายที่เป็นฉบับจริง เช่น บัตรประจำตัวประชาชน  สำเนาทะเบียนบ้าน ฯ) การซื้อขายต้องตกลงราคาการซื้อขายกันให้ชัดเจนว่าราคาเท่าไร  ใครจะเป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆในการจดทะเบียนโอน (ค่าภาษีเงินได้  ค่าธรรมเนียมต่างๆ) ถ้าไม่ตกลงค่าธรรมเนียมกันให้ชัดเจนว่า ใครจ่ายหรือตกลงว่าจะจ่ายเท่าๆกัน ย่อมมีปัญหา เพราะค่าธรรมเนียม และภาษี ค่อนข้างสูง  อาจจะเป็นแสนก็ได้  ถ้าไม่ตกลงกันให้ชัดเจน อาจจะจดทะเบียนการโอนไม่ได้ เพราะต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียมก่อน เจ้าพนักงานที่ดินจึงจะจดทะเบียนการโอนฯให้  และต้องตกลงกันให้ชัดเจนว่า ซื้อที่ดินมือเปล่า มีสิ่งปลูกสร้างหรือไม่  และที่ดินมีภาระผูกพันใดๆหรือไม่ เช่น ภาระจำนอง  ภาระจำยอมฯ...ณ สำนักงานที่ดิน จะมีการทำสัญญาซื้อขาย ที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่าย(ผู้ซื้อและผู้ขาย ต้องลงลายมือชื่อ)....การจ่ายเงิน  ไม่ควรจ่ายเงินก่อน  ควรจ่ายเมื่อมีการจดทะเบียนโอนกันแล้ว แบบยื่นหมู่ยื่นแมว  ถ้าเงินเป็นจำนวนมาก ควร ขอแคชเชียร์เช็คจากธนาคาร เพื่อจ่ายต่อหน้าเจ้าพนักงานฯ เมื่อมีการจดทะเบียนโอน และสลักหลังผู้ซื้อ  ว่าเป็นเจ้าของที่สมบูรณ์...ถ้าจ่ายเงินก่อน  ถ้าผู้ขายตุกติกไม่ไปโอนให้ ก็ต้องมีคดีฟ้องร้องกันยาวนาน  อย่าเสี่ยง...

      การไปจดทะเบียโอนฯ ไม่ต้องไปเองก็ได้  แต่ต้องทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปทำการแทน ให้ชัดเจน  โดยใช้แบบของกรมที่ดิน (เปิดในเน็ตก็มี)

  กรณีต้องการทำสัญญากันก่อนไปโอนกรรมสิทธิ์  ก็สามารถทำได้ ต้องทำเป็นสัญญาจะซื้อขาย ไม่ใช่สัญญาซื้อขาย ถ้าระบุว่าเป็นสัญญาซื้อขาย จะเป็นโมฆะ เพราะไม่จดทะเบียนการโอนฯ....สัญญาจะซื้อจะขายต้องมีระบุเรื่องราคา  การวางประจำ(มัดจำ)หรือไม่วางก็ได้แล้วแต่จะตกลงกัน  และต้องระบุให้ชัดเจนว่า  จะไปพบกัน ณ สำนักงานที่ดิน  เพื่อจะจดทะเบียนโอนในวันใด  ถ้าทำสัญญาจะซื้อจะขายก็มีประโยชน์  ถ้า มีการบิดพลิ้วไม่ยอมซื้อหรือไม่ยอมขาย  ก็สามารถฟ้องร้องให้ปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายได้...ด้วยความปรารถนาดีครับ

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 4 พ.ย. 2568, 12:15